ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 12 พ.ค.63 ปิดที่ 1,299.69 จุด เพิ่มขึ้น 12.39 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 59,394.53 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 3,205.07 ล้านบาท
หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด PTT ปิด 36.25 บาท บวก 0.75 บาท, ADVANC ปิด 190.50 บาท ลบ 3 บาท, BAM ปิด 23.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.70 บาท, GPSC ปิด 74.25 บาท บวก 2 บาท, CPALL ปิด 73.50 บาท ลบ 0.50 บาท
ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นสวนทางตลาดภูมิภาค โดยนักลงทุนเข้าเก็งกำไรผลประกอบการหุ้นรายตัวที่คาดว่าจะออกมาดีและลุ้นรับข่าวดีการผ่อนปรนกิจการกลุ่มที่ 2 ให้ออกมาเปิดกิจการได้
หลายบริษัทแจ้งผลประกอบการไตรมาส 1 ออกมาโดย INTUCH กำไรออกมาดีกว่าที่คาด กำไร 2,740ล้านบาท ลดลงเล็กน้อย 5.6%
เทียบกับไตรมาส 1 ปี 62 แต่เพิ่มขึ้นถึง 45% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปี 62 บล.ทิสโก้แนะ “ซื้อ” ให้มูลค่าเหมาะสม 68 บาท
ส่วนหุ้น PTT ที่ไตรมาส 1 ขาดทุน 1,554 ล้านบาท ลดลงหนักจากช่วงเดียวกันปี 62 ที่มีกำไร 2.93 หมื่นล้านบาท ทิสโก้ชี้เป็นไปตามคาดที่ขาดทุนจากสต๊อกน้ำมันและค่าเงินที่หายไป ซึ่งถือเป็นรายการพิเศษ หากไม่รวมรายการนี้จะเป็นผลกำไร 1.56 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้แนะนำแค่ “ถือ” โดยให้มูลค่าที่เหมาะสมที่ 34 บาท
ปิดท้าย “ศรพล ตุลยะเสถียร” รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กรตลาดหลักทรัพย์ สรุปภาวะตลาดเดือน เม.ย.ว่า ดัชนีหุ้นไทยสิ้นเดือน เม.ย.ปรับตัวขึ้น 15.6% ปิดที่ 1,301.66 จุด จากสิ้นเดือนก่อนหน้าซึ่งสูงเป็นอันดับ 2 ในเอเชีย หลังสถานการณ์ COVID-19 เริ่มคลี่คลาย
โดยตลาดมีมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 68,093 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28% จากค่าเฉลี่ยทั้งปี 62 ขณะที่ต่างชาติมีสถานะขายสุทธิ 46,782 ล้านบาท เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดเอเชีย โดยหุ้นกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม, ทรัพยากร, บริการ, กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้างเพิ่มขึ้นมากกว่าตลาดภาพรวม
ด้าน Forward อยู่ที่ระดับ 17.7 เท่า และ Historical P/E อยู่ที่ 15.1 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ระดับ 13.3 เท่า และ 14.0 เท่า ตามลำดับ ส่วนอัตราเงินปันผลตอบแทน อยู่ที่ระดับ 4.0% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดในเอเชียซึ่งอยู่ที่ 3.3%!!
ที่มา คอลัมน์ เงาหุ้น โดย อินเด็กซ์51 หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ