บล.กสิกรไทย ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยในวันทำการที่เหลือของสัปดาห์นี้ ด้านเทคนิค ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,325 และ 1,300 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,350 และ 1,365 จุด ตามลำดับ
มีปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันที่ 28-29 ก.ค. ประเด็นความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ-จีนที่ทวีความตึงเครียดมากขึ้น
รวมทั้ง สถานการณ์โควิด-19 สถานการณ์การเมืองในประเทศ รวมถึงการทยอยประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/63 ของบริษัทจดทะเบียน หลังกลุ่มธนาคารพาณิชย์ออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้มาก
ขณะที่ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน มองว่าดัชนีหุ้นไทยยังคงผันผวน เผชิญแรงกดดันหลักจากปัจจัยต่างประเทศ มองสัปดาห์นี้ตลาดมีความเสี่ยงที่จะปรับตัวลงต่อ หลังสัญญาณทางเทคนิคส่งสัญญาณไม่ดี ขณะที่ปัญหาความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯกับจีนยังคงเป็นปัจจัยที่กดดันภาพรวมตลาดหุ้นทั่วโลก
นอกจากนี้ยังมีประเด็นการเมืองในประเทศที่ต้องติดตาม ทั้งการปรับคณะรัฐมนตรี และการประท้วงของกลุ่มนักศึกษา
แนะกลยุทธ์การลงทุน สำหรับคนที่ไม่มีหุ้น ให้หาจังหวะซื้อเก็งกำไรหุ้นที่คาดว่างบ Q2/63 จะออกมาดีอย่าง TASCO-CPF-TU-JMT-JMART-ICHI-OSP
ส่วนคนที่มีหุ้น ควรขายปรับพอร์ตในจังหวะดีดตัว ด้านเทคนิคประเมินแนวต้านไว้ที่ 1,370-1,380 จุด ส่วนแนวรับแรกอยู่ที่ 1,326 จุด ถัดไป 1,312 จุด แนวต้าน 1,370-1,380 จุด
ด้านมุมมอง นักวิเคราะห์ บล.กรุงไทย ซีมิโก้ มองตลาดบ้านเราหลังปิดทำการระยะยาวตลาด ยังมีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นไปได้ หลังสัปดาห์ก่อนปรับตัวลงแรง โดยน่าจะมีแรงซื้อหุ้นขนาดกลาง-เล็กที่ยังไปได้อยู่ และนักลงทุนยังรอลุ้นผลประชุมเฟด และ GDP ของสหรัฐฯ ที่น่าจะออกมาเชิงบวก
ด้านเทคนิคให้แนวรับ 1,330 จุด ส่วนแนวต้าน 1,360–1,380 จุด.