หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด AOT ปิด 61.50 บาท บวก 2.25 บาท, CPF ปิด 31.25 บาท บวก 2.25 บาท, STA ปิด 26.25 บาท บวก 2.85 บาท, MINT ปิด 19.70 บาท บวก 0.50 บาท และ KBANK ปิด 90.50 บาท บวก 2.25 บาท
ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นได้ต่อ หลังพบทั่วโลกทยอยคลายล็อก ให้เปิดดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจมากขึ้น พร้อมความคาดหวังไวรัสและยาต้านโควิด-19 ที่มีโอกาสได้ใช้ภายในปีนี้
ท่ามกลางความตึงเครียดระหว่าง จีน-สหรัฐฯกับเดิมพันสงครามการค้าโลก
บล.เอเซีย พลัส ชี้ตลาดหุ้นโลกภาพรวมยังคึกคัก หลังจากผู้อำนวยการสถาบันโรคติดต่อสหรัฐฯเผยว่า วัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่มีโอกาสได้ใช้ปีนี้ รวมถึงกระแสเริ่มกลับมาเปิดเมืองในหลายประเทศ เช่น ญี่ปุ่นยกเลิกภาวะฉุกเฉินทั่วประเทศ สเปนและเยอรมนีให้ประเทศในแถบ EU สามารถเดินทางไปมาได้ในวันที่ 15 มิ.ย.นี้ เป็น Sentiment บวก ต่อหุ้นสายการบิน และหุ้นท่องเที่ยว
ขณะที่ฝั่งไทย แม้หุ้นสายการบิน และกลุ่มท่องเที่ยวน่าจะได้ Sentiment เชิงบวกเช่นกัน
แต่หุ้นส่วนใหญ่เริ่มเกินมูลค่าพื้นฐานแล้ว ขณะที่ยังมีหุ้นอีกกลุ่มหนึ่งที่น่าจะได้ประโยชน์มากกว่าและน่าสนใจลงทุน คือ กลุ่มโรงพยาบาล
หากพิจารณาความจำเป็นผู้เดินทางมาจาก 3 ส่วนหลัก คือ ผู้ป่วย, นักธุรกิจและนักท่องเที่ยว พบว่าผู้ป่วยมีความจำเป็นเร่งด่วนสุดในการเดินทางเพื่อมารักษา บวกกับประเทศที่นิยมมารักษา อย่างสิงคโปร์ อินเดีย ยังมีสัดส่วนผู้ติดเชื้อสูง ส่งผลดีต่อโรงพยาบาลไทย น่าจะเป็นเป้าหมายลำดับต้นๆในการเดินทางมารักษา
สำหรับภาพรวมตลาด แม้ Fund Flow ยังไหลออกจากสินทรัพย์ปลอดภัย แต่การลงทุนในตลาดหุ้นจำเป็นต้องระมัดระวังมากขึ้น จากสงครามทางการค้าจีน-สหรัฐฯ ที่มีโอกาสกลับมาได้อีกครั้ง หุ้นเด่น Toppick เลือกหุ้น BDMS (FV @ 23.80) ปัจจัยบวกรอบด้าน
ทั้งความจำเป็นในการเดินทางของผู้ป่วยที่มากกว่านักท่องเที่ยว รวมถึงฐานผู้ป่วยในไทยเดือน เม.ย.63 ฟื้นตัวได้เร็ว และ Valuation ที่น่าสนใจที่สุดในกลุ่มจากความสามารถในการเติบโตระยะยาว
ขณะที่หุ้น SAT (FV @ 14.00) ที่ได้ Sentiment จากการ Reopen อีกทั้งกรมสรรพสามิตอยู่ในช่วงพิจารณาลดภาษีรถยนต์ 50% รวมถึงราคาหุ้นยัง Laggard ตลาดอยู่มาก!!
ที่มา คอลัมน์ เงาหุ้น โดย อินเด็กซ์ 51 หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ