Home Blog Page 54

สรรพากรยืดเวลายื่นภาษีบุคคลถึง 31 ส.ค.

ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) กรมสรรพากรยึดถือความปลอดภัยของผู้เสียภาษี รวมถึงเจ้าหน้าที่สรรพากรเองเป็นสำคัญ เพื่อคลายความกังวลและภาระการเดินทางของผู้เสียภาษีจากมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดในหลายพื้นที่ เพื่อมายื่นแบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและชำระภาษี ณ สำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขา ภายในวันที่ 31 มีนาคม 2563 จึงได้มีการขยายเวลาการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ภ.ง.ด.90/91) ปีภาษี 2562 ไปจนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2563 แล้ว

ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร

สำนักงานสรรพากรพื้นที่ และสำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขาทั่วประเทศ ยังคงเปิดให้บริการอยู่ตามปกติ อย่างไรก็ตามกรมสรรพากรมีความจำเป็นที่ต้องปฏิบัติตามมาตรการเพิ่มระยะห่างทางสังคม (Social Distancting) อย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทำให้ผู้เสียภาษีอาจจะไม่ได้รับความสะดวกในการเดินทางมาติดต่อขอรับบริการ

จึงขอความร่วมมือและเชิญชวนให้ผู้เสียภาษีทุกท่านใช้บริการภาษีทางอิเล็กทรอนิกส์ของกรมสรรพากร เช่น การยื่นแบบแสดงรายการและชำระภาษีผ่านระบบ e-Filing หรือ Mobile Application RD Smart Tax แทนการมายื่นแบบแสดงรายการเสียภาษีที่สำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขาด้วยตนเอง

ออมสิน ออกเงินกู้ฉุกเฉิน ช่วยผู้มีอาชีพอิสระ/ผู้มีรายได้ประจำโดนผลกระทบไวรัสโควิด-19

ยื่นลงทะเบียนใช้บริการผ่านเว็บไซต์ธนาคารฯ www.gsb.or.th เท่านั้น

ดร.ชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ธนาคารได้เปิดให้บริการ สินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับผู้มีอาชีพอิสระที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโคโรนา (COVID-19) วงเงินกู้สูงสุด 10,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 0.10% ต่อเดือน (Flat Rate) ผ่อนชำระคืนนานถึง 2 ปี โดยไม่ต้องชำระเงินกู้ 6 งวดแรก ที่สำคัญคือไม่ต้องใช้หลักประกันใดๆ คุณสมบัติผู้กู้มีอายุ 20 ปีขึ้นไป สัญชาติไทย เป็นผู้ประกอบอาชีพอิสระที่มีรายได้เดือนละไม่เกิน 30,000 บาท ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 เช่น พ่อค้าแม่ค้า คนขับรถโดยสารแท็กซี่-สามล้อ มัคคุเทศก์ เป็นต้น มีถิ่นที่อยู่อาศัยแน่นอน สามารถติดต่อได้

ขณะเดียวกัน ธนาคารออมสินได้สนับสนุนโครงการสินเชื่อฉุกเฉิน และโครงการสินเชื่อพิเศษเพิ่มเติม ตามมติเพื่อเสริมสภาพคล่องชั่วคราวในการดำรงชีวิตแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบดังกล่าวด้วยการเปิดให้บริการสินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับผู้มีรายได้ประจำที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโคโรนา (COVID-19) วงเงินกู้สูงสุด 50,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 0.35% ต่อเดือน (Flat Rate) ให้ผ่อนชำระคืนนานถึง 3 ปี โดยการค้ำประกันสามารถใข้บุคคลหรือหลักทรัพย์ค้ำประกันก็ได้ เพียงมีอายุ 20 ปีขึ้นไป สัญชาติไทย เป็นผู้มีรายได้ประจำแต่รายได้ลดลงหรือขาดรายได้เนื่องจากได้รับผลกระทบจาก COVID-19 และภัยอื่นๆ มีถิ่นที่อยู่อาศัยแน่นอน สามารถติดต่อได้

ทั้งนี้ เพื่อลดความเสี่ยงที่จะติดเชื้อไวรัสได้จากการพบปะกันของคนจำนวนมากที่สาขา ประชาชนที่มีคุณสมบัติดังกล่าวจึงไม่จำเป็นต้องเดินทางไปติดต่อที่สาขา เพราะธนาคารออมสินอำนวยความสะดวกด้วยการเปิดให้ยื่นลงทะเบียนใช้บริการสินเชื่อนี้ผ่านเว็บไซต์ธนาคารออมสิน www.gsb.or.th เท่านั้น ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2563 เป็นต้นไป เพียงมีโทรศัพท์มือถือที่พร้อมใช้งานเปิดเว็บไซต์ธนาคารออมสินหรือมีเครื่องคอมพิวเตอร์

บีทีเอสให้ผู้โดยสารที่เที่ยวเดินทางหมดอายุจากผลกระทบโควิด-19 เติมเที่ยวเดินทางคืน

​จากสถานการณ์แพร่ระบาดของการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะผลกระทบต่อการเดินทางของผู้ใช้บริการ

บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารระบบรถไฟฟ้าบีทีเอส และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง (จำกัด) ผู้บริหารกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานระบบขนส่งมวลชนทางราง บีทีเอสโกรท (BTSGIF) ทราบถึงผลกระทบดังกล่าวนี้

อีกทั้ง ประกาศกรุงเทพมหานคร และการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร พ.ร.ก. การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (ฉบับที่ 1) ทำให้เกิดผลกระทบต่อการเดินทาง และการใช้บัตรโดยสารประเภทเติมเที่ยวเดินทาง 30 วัน ของผู้โดยสาร

ขณะนี้ บริษัทได้ดำเนินการออกมาตรการดูแลผู้โดยสารที่เติมเที่ยวเดินทางดังกล่าว ด้วยการคืนเที่ยวเดินทาง ให้ผู้โดยสารที่เติมเที่ยวเดินทาง ระหว่าง วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2563 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2563 ที่ยังมีเที่ยวเดินทางคงเหลือ และหมดอายุภายในวันที่ 30 เมษายน 2563 สามารถนำบัตรโดยสารติดต่อขอรับสิทธิ์การคืนเที่ยวเดินทางที่หมดอายุตามจริง เมื่อประสงค์จะเดินทาง ที่ห้องจำหน่ายตั๋วโดยสารทุกสถานี

โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2563 หรือภายหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาด จะคลี่คลายตามประกาศจากทางรัฐบาล ทั้งนี้เที่ยวเดินทางที่ได้รับสิทธิ์นั้น จะมีอายุ 30 วัน นับตั้งแต่วันที่เริ่มใช้เดินทาง

เตือนปชช.ลงทะเบียนเว็บเราไม่ทิ้งกัน ระวังเว็บปลอมและพวกรับจ้างลงทะเบียน

ธนาคารกรุงไทย เตือนประชาชน ระวังเว็บไซต์ปลอมและมิจฉาชีพรับจ้างลงทะเบียนเพื่อใช้ในทางทุจริต
ผู้ลงทะเบียนสามารถลงทะเบียนด้วยตนเองได้ที่ เว็บไซต์ www. เราไม่ทิ้งกัน .com เท่านั้น ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
เพื่อความปลอดภัย พิมพ์ชื่อเว็บใหม่และตรวจสอบตัวสะกดให้ถูกต้อง การลงทะเบียนสามารถทำได้ตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม 2563 เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป
หากพบปัญหาหรือไม่สามารถลงทะเบียนได้ สามารถขอคำแนะนำได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0 2 111 1144

กรมอนามัย ออกกฏ 9 ข้อ รถเร่พุ่มพวง ป้องกันไวรัสโควิด-19

แนะ “รถเร่พุ่มพวง” ปฏิบัติตามกฎ 9 ข้อ สร้างความมั่นใจผู้ซื้อ ลดการแพร่กระจายเชื้อไวรัส COVID-19

พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ผู้ประกอบการค้าปลีก ที่นำยานพาหนะ มารับซื้อสินค้าประเภทต่าง ๆ จากตลาดไท ซึ่งเป็นตลาดค้าส่งขนาดใหญ่ ไปจำหน่ายในชุมชน และหมู่บ้าน ในรูปแบบตลาดสดเคลื่อนที่ หรือ “รถเร่ หรือรถพุ่มพวง” นั้น

พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย

ในแต่ละวันจะมีรถเร่ประมาณ 500 คัน ที่รับสินค้าที่ตลาดไท ส่วนใหญ่วัตถุดิบที่จำหน่ายเป็นประเภทผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์สด อาหารแห้ง อาหารบรรจุปิดสนิท อาหารแปรรูป เป็นต้น เพื่อนำไปจำหน่าย ทำให้ผู้ซื้อเข้าถึงสินค้าได้อย่างสะดวก ไม่ต้องออกมาจับจ่ายซื้อสินค้านอกบ้าน สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบันที่มีการระบาดของโรคติดเชื้อ COVID-19 โดยขอความร่วมมือประชาชนให้ “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ”

ทั้งนี้ ขอให้ผู้ประกอบการปฏิบัติตามคำแนะนำ 9 ข้อ

1) รถเร่ ต้องสะอาด จัดเก็บอาหารเป็นสัดส่วน มีการปกปิด และ ทำความสะอาดด้วยน้ำยาทำความสะอาดทุกวัน

2) อาหารสด อาหารปรุงสำเร็จ อาหารแห้ง อาหารแปรรูป จัดเก็บแยกเป็นสัดส่วนตามประเภทอาหาร ไม่ปะปนกัน

3) เนื้อสัตว์สด อาหารทะเล ต้องสะอาด จัดเก็บ แยกภาชนะ มีการปกปิดที่อุณหภูมิต่ำกว่า 5 องศาเซลเซียส

4) อาหารปรุงสำเร็จ บรรจุในภาชนะ ที่เหมาะสมกับอาหาร มีการปกปิด ห้ามนำอาหารที่ปรุงข้ามวันมาจำหน่าย

5) ผลไม้ตัดแต่ง ล้าง จัดเก็บแยกตามประเภทผลไม้ มีการปกปิดใช้น้ำแข็งสะอาด

6) ภาชนะ/อุปกรณ์ แยกใช้ระหว่างอาหารสุก อาหารดิบ ผักและผลไม้ เพื่อป้องกันการปนเปื้อน ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคเป็นประจำทุกวัน

7) ล้างมือด้วยน้ำ และสบู่ หรือ เจลแอลกอฮอล์ สวมใส่หน้ากากผ้า/หน้ากากอนามัย ใช้อุปกรณ์หรือสวมถุงมือหยิบจับอาหารพร้อมบริโภค

8) ผู้ซื้อและผู้ขาย กำหนดระยะห่างอย่างน้อย 1 เมตร ไม่พูดคุย ไอ จาม ระหว่างเลือกซื้ออาหาร และ

9) หากมีอาการไอ จาม คล้ายโรคระบบทางเดินหายใจ มีไข้ ให้หยุดปฏิบัติงานและไปพบแพทย์ ซึ่งเป็นการสร้างความมั่นใจ ให้กับผู้ซื้อ และสร้างสุขอนามัย ที่ดีให้กับตนเองด้วย

ซีพีเอฟ เปิดสถานีไข่สด ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนผู้บริโภค

นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เปิดเผยว่า จากความกังวลของประชาชนเกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19 และนำไปสู่ความต้องการซื้อไข่เป็นจำนวนมากกว่าช่วงเวลาปกตินั้น เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนดังกล่าว ซีพีเอฟ จึงได้จัดเตรียม ร้านซีพี เฟรชมาร์ท ให้เป็น “สถานีไข่สด” จัดจำหน่ายไข่ไก่ แบบแผง 30 ฟอง เบอร์ 3 ในราคาเพียง 98.- บาท เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของการบริโภคในสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งทุกท่านสามารถหาซื้อได้ที่ร้านซีพี เฟรชมาร์ท ทุกสาขาทั่วประเทศ นอกจากนี้ ยังส่งเพิ่มไปยังเซเว่น อีเลฟเว่น และแม็คโครด้วย

นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร ซีพีเอฟ

นอกจากนี้ ยังมีขนาดอื่นๆให้เลือกอีก ขนาดเล็กเบอร์ 4 แผงละ 95.- บาท และขนาดใหญ่เบอร์ 1 แผงละ 111.- บาท รวมทั้ง ยังมีไข่กล่องที่บรรจุในแพ็คแบรนด์ CP ที่สวยงาม ขนาด 4 ฟอง และ 10 ฟอง ซึ่งจัดเป็นไข่ในบรรจุภัณฑ์พิเศษที่จะอำนวยความสะดวกตามความต้องการของผู้บริโภคในครอบครัวขนาดเล็ก รวมถึง ไข่โอเมก้า และ ไข่เคจฟรี ที่เป็นทางเลือกให้แก่ลูกค้าเพิ่มขึ้นด้วย

ทั้งนี้ ราคาไข่ไก่ เป็นราคาที่สมาคมผู้ผลิตไข่มีการกำหนดร่วมกันในแต่ละสัปดาห์ตามความเป็นจริง ขณะเดียวกัน กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ได้ขอความร่วมมือให้ยืนราคาไข่คละหน้าฟาร์มที่ 2.80 บาท โดยบริษัทยินดีให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่

ยกเลิกขายไข่ไก่หน้าพรรคพปชร.

เมื่อวันที่ 27 มี.ค. ที่ผ่านมา นายสุชาติ สินรัตน์ รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วย นางสาวปาริชาติ พงค์พันเทา ผู้อำนวยการกลุ่มกำกับและพัฒนาเศรษฐกิจการค้า สังกัดสำนักงานพาณิชย์จังหวัดนครสวรรค์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้เข้าตรวจสอบฟาร์มไข่ไก่รายใหญ่ กนกวรรณฟาร์ม ตั้งอยู่ที่อำเภอบรรพตพิสัย จังหวัดนครสวรรค์ พบว่า ไข่ไก่ราคาหน้าฟาร์มสูงกว่าราคากลางที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด

ขอบคุณภาพ จาก  Nakhonsawan news

ไข่ไก่คละแผงละ 116 บาท (แผงละ 30 ฟอง) ฟองละ 3.85 บาท ขณะที่ราคาที่สมาคมผู้ผลิต ผู้ค้าและส่งออกไข่ไก่ ประกาศไว้เมื่อวันที่ 23 มี.ค.63 อยู่ที่ฟองละ 2.80 บาท พบว่า ฟาร์มกนกวรรณ ขายเกินราคาไป ฟองละ 1.05 บาท จึงได้แจ้งให้เจ้าของฟาร์มทราบ และได้เดินทางไปแจ้งความที่ สภ.หนองกรด จ.นครสวรรค์ ในข้อหาความผิดตาม พรบ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 มาตรา 29 จำหน่ายสินค้าราคาสูงเกินสมควร มีโทษความผิดตามมาตรา 41 นำหลักฐานแผงไข่ไก่ขนาดเบอร์ 0-3 พร้อมป้ายระบุราคมส่งให้พนักงานสอบสวนในการเอาผิด และจะเชิญตัวเจ้าของฟาร์มดังกล่าวมาแจ้งขอกล่าวหาและดำเนินคดี

ปรากฏว่า ฟาร์มกนกวรรณ รายนี้เป็นฟาร์มเดียวกับที่ก่อนหน้านี้ สส.วีระกร คำประกอบ จากพรรคพลังประชารัฐ บอกว่าจะนำไข่ไก่จากฟาร์มนี้มาจำหน่ายราคาถูกที่หน้าพรรค โดยล่าสุดมีรายงานข่าวว่า นายวีระกร ได้โพสเฟสบุ็คส่วนตัว แจ้งยกเลิกการขายไข่ไก่ที่หน้าพรรคแล้ว โดยให้เหตุผลว่า เกรงจะทำให้มีการแพร่กระจายของไวรัสโควิด-19

พาส่องหน้าเว็บ เราไม่ทิ้งกัน.com

มาตรการเยียวยา 5,000 บาท (3 เดือน)
แก่ลูกจ้างของสถานประกอบการ หรือผู้ได้รับผลกระทบของการแพร่ระบาดจากไวรัส COVID-19

ลงทะเบียนเข้าร่วมมาตรการได้ตั้งแต่ วันเสาร์ที่ 28 มีนาคม 2563 เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป ตลอด 24 ชั่วโมง

ทำความเข้าใจก่อนลงทะเบียน มาตรการเยียวยา 5 พันบาท

กระทรวงการคลัง ชี้แจงไขข้อสงสัย แจกแจงรายประเด็น เกี่ยวกับมาตรการเยียวยา ซึ่งจะเปิดให้ลงทะเบียนในวันนี้ 28 มีนาคม 63

สิงห์ บริจาคเงิน 50 ล้าน ทุ่มช่วยรพ. สนับสนุนบุคลากรแพทย์ สู้โควิด-19

นายจุตินันท์ ภิรมย์ภักดี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด กล่าวว่า คณะกรรมการบริษัท มีมติมอบเงิน 50 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนการทำงานของโรงพยาบาลต่างๆที่รับหน้าที่ในการดูแลรักษาผู้ป่วยจากการติดเชื้อโควิด-19 ได้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งในด้านของการรักษาและควบคุมการแพร่ระบาดของโรค

จากการประสานงานใกล้ชิดกับคุณหมอในแต่ละโรงพยาบาล ที่ทีมงานของบุญรอดฯ ได้สนับสนุนการทำงานกับโรงพยาบาลหลักๆในกรุงเทพ ทำให้ทราบถึงความต้องการที่จำเป็นมาโดยตลอด โดยเงินบริจาคนี้ จะมอบให้แต่ละโรงพยาบาลนำไปใช้ในการจัดซื้ออุปกรณ์ป้องกันการติดเชื้อให้กับหมอ พยาบาลและเจ้าหน้าที่ที่ทำหน้าที่ดูแลผู้ป่วย เช่น หน้ากากอนามัย Face Shield หรือ ชุด PPE และจัดซื้ออุปกรณ์ที่ช่วยในการคัดกรองผู้ป่วยทั้งในส่วนของอาคารแรกรับและหอผู้ป่วย COVID-19 และที่สำคัญที่สุดคือจัดซื้อเครื่องช่วยหายใจเพื่อเพิ่มโอกาสในการรักษาชีวิตให้กับผู้ป่วยทุกราย

เบื้องต้น บริษัทได้มอบเงินบริจาคให้กับ 6 โรงพยาบาลหลักของรัฐที่ทำหน้าที่ในการดูแลผู้ป่วย COVID-19 โรงพยาบาลละ 5 ล้านบาท ได้แก่ โรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โรงพยาบาลราชวิถี โรงพยาบาลรามาธิบดีจักรีนฤบดินทร์ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ และ สถาบันบำราศนราดูร รวมทั้งได้มอบเงินบริจาคให้กับโรงพยาบาลในจังหวัดสำคัญทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ได้แก่ รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ รพ.ศูนย์ขอนแก่น รพ.มหาราชนครราชสีมา รพ.อุดรธานี รพ.สุราษฎร์ธานี โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (รพ.มอ.) อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา รวมทั้งสิ้นเป็นจำนวนเงิน 50 ล้านบาท

นอกจากนี้ทางบริษัทได้สนับสนุน อาหารและน้ำดื่มสิงห์ให้กับโรงพยาบาลต่างๆทั้งในส่วนของการดูแลผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์มาโดยตลอดและยืนยันที่จะมอบต่อไปเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับผู้ปฏิบัติหน้าที่ทุกท่านรวมทั้งผู้ป่วย