นายปรัธนา ลีลพนัง หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าทั่วไป เอไอเอส กล่าวว่า หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เริ่มดีขึ้นตามลำดับ เป็นช่วงเวลาที่คนไทยทุกภาคส่วนต้องร่วมมือ ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เพื่อฟื้นฟูประเทศไทยให้ก้าวผ่านและสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนไปด้วยกัน โดยการจับจ่ายและการบริโภค (Consumption) ถือเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่จะช่วยกระตุ้นและพลิกฟื้นการเติบโตของเศรษฐกิจได้ อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้คนไทยยังต้องดูแลสุขอนามัยและรักษาระยะห่างตามมาตรการ Social Distancing
เอไอเอส มีความตั้งใจที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนการฟื้นฟูประเทศไทยด้วยโครงข่ายดิจิทัลและดิจิทัล แพลตฟอร์มที่เรามีอยู่ จึงได้จัดงาน AIS 5G Thailand Virtual Expo พลิกโฉมการจัดงานเอ็กซ์โปที่เคยจัดแบบ Physical ในฮอลล์ขนาดใหญ่ โดยได้ยกงานนั้นมาไว้บนออนไลน์แล้ว พร้อมด้วยเทคโนโลยี Virtual Reality ให้ภาพและเสียงสมจริง เสมือนอยู่ในงานเอ็กซ์โป สร้างประสบการณ์การช้อปที่แปลกใหม่และไม่เคยมีมาก่อน เพื่อให้นักช้อปรุ่นใหม่แห่งยุค New Normal ได้คลิกซื้ออย่างปลอดภัย ไม่ต้องเดินทาง และยังถือ Business Model ใหม่แห่งวงการ Market Place ที่เอไอเอสพร้อมพัฒนาเพื่อขยายขีดความสามารถและยกระดับศักยภาพธุรกิจ e-Commerce ซื้อขายสินค้าและบริการออนไลน์ของประเทศไทยให้ก้าวไปอีกขั้น
ทั้งนี้ เอไอเอสได้ทำงานร่วมกับพันธมิตรดีไวซ์ชั้นนำระดับโลก นำสินค้าไอทีทั้งสมาร์ทโฟนและแก็ดเจ็ตมากมายมาจำหน่ายในราคาสุดเอ็กซ์คลูซีฟ นอกจากนี้ ยังได้จับมือผู้ประกอบการรายย่อยและ SME นำสินค้ามาจำหน่าย สร้างโอกาสให้ SME เข้าถึงลูกค้าและมีรายได้ เพื่อโอกาสในการที่ SME จะจ้างงานต่อไปในอนาคต
สำหรับงาน AIS 5G Thailand Virtual Expo จะมีสินค้า โมบาย อาหาร แฟชั่น เฟอร์นิเจอร์ และสินค้าไลฟ์สไตล์ จากผู้ค้ารายย่อย กว่า 500 ร้านค้า ในรูปแบบออนไลน์ Virtual Reality (VR) หรือโลกเสมือนจริง ให้ระบบภาพและเสียงในรูปแบบมัลติมีเดีย อินเตอร์ แอคทีฟ 360 องศา ทั้งในรูปแบบ 2D, 3D หรือประสบการณ์การช้อปที่สมจริงยิ่งขึ้นด้วยการรับชมผ่านแว่น VR สอดรับพฤติกรรมนักช้อปแห่งยุค New Normal ที่เน้นดูแลสุขอนามัย ความปลอดภัย และรักษาระยะห่าง ผู้สนใจ สามารถคลิกช้อปสินค้าไอทีและไลฟ์สไตล์ในงานได้ที่ www.ais.co.th/ThailandVirtualExpo ได้ตลอด 24 ชม. 5 วันเต็ม (29 มิ.ย. – 3 ก.ค. 63)