นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงผลการประชุมคณะทำงานเฉพาะกิจป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับสินค้าอุปโภคบริโภคระดับประเทศ ว่า ยอดจับกุมผู้กระทำความผิดจนถึง 26 มี.ค. อยู่ที่ 210 ราย แบ่งเป็นกรุงเทพฯ 109 ราย และต่างจังหวัด 101 ราย โดยส่วนใหญ่เป็นผู้กระทำผิดเกี่ยวกับหน้ากากอนามัย
และ เป็นการจับกุมผู้กระทำผิดสินค้าไข่ไก่ 3 ราย ได้แก่ รายที่ปทุมธานี ขายไข่ไก่เบอร์ 0 จำนวน 30 ฟอง ราคา 170 บาท ราคาเฉลี่ย 5.66 บาทต่อฟอง จากปกติไม่ควรเกิน 4.10-4.20 บาทต่อฟอง, ที่จังหวัดพิษณุโลก ขายไข่ไก่เบอร์ 2 จำนวน 30 ฟอง ราคา 140 บาท จากปกติไม่ควรเกิน 110 บาท และที่จังหวัดนครสวรรค์ ขายไข่ไก่ เบอร์ 0 ราคา 155 บาท, เบอร์ 1 ราคา 150 บาท, เบอร์ 2 ราคา 145 บาท, เบอร์ 3 ราคา 130 บาท และเกรดคละ ราคากว่า 100 บาท ซึ่งได้ส่งดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว
กรณีไข่ไก่ ไม่อยากให้ผู้บริโภคตื่นตระหนก เพราะกำลังการผลิตไข่ไก่มีวันละ 41 ล้านฟอง บริโภคในประเทศ 39 ล้านฟอง ยังมีส่วนเกินเหลืออยู่ 2 ล้านฟอง ซึ่งปกติจะส่งออก แต่ล่าสุดกระทรวงพาณิชย์ได้ห้ามการส่งออก เป้นเวลา 7 วัน และสามารถขยายเวลาได้ หากยังมีปัญหาอยู่
อย่างไรก็ตาม กรณีที่เกิดขึ้น เป็นเพราะเติมสินค้าไม่ทัน จากปกติขาย 1 สัปดาห์หมด แต่คนซื้อหมดภายใน 1 วัน ทำให้สินค้าขาดช่วง อีกทั้งตอนนี้นักท่องเที่ยวก็หายไป ทำให้ความต้องการใช้ใข่ประกอบทำอาหารก็ลดหายไป ปริมาณไข่ไก่ตรงนี้ก็กลับเข้าสู่ตลาด ทั้งนี้ ไม่มีความจำเป็นต้องกักตุน เพราะรัฐบาลไม่ได้ห้ามออกจากบ้าน ยังสามารถออกมาซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคได้
ทั้งนี้ ถ้าผู้บริโภคพบเห็นการเอารัดเอาเปรียบ หรือพบเห็นการกักตุน พบเห็นการจำหน่ายสินค้าราคาแพงเกินจริง สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วน 1569 กรมการค้าภายใน
ระดับจังหวัดร้องเรียนได้ที่ศูนย์ดำรงธรรม และหากสามารถดำเนินการจับกุมมาดำเนินคดี และคดีถึงที่สุด มีการปรับผู้กระทำความผิด ผู้ที่ร้องเรียนจะได้รับส่วนแบ่งค่าปรับ25 %ด้วย