ความบันเทิงยุคสมัยใหม่ ไม่ได้มาในรูปแบบของสิ่งที่จับต้องได้อีกต่อไป เมื่อสิ้นยุคสมัยของแผ่นซีดี ดีวีดี บลูเรย์ ซึ่งเป็นผลจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป คนฟังเพลงปัจจุบัน เลือกที่จะเสพงานเหล่านี้ผ่านการสตรีม หรือ ออนไลน์แทน เพราะเดี๋ยวนี้ ฟังเพลงจากมือถือ, คอมพิวเตอร์ เป็นพฤติกรรมการฟังเพลงที่แทนที่การฟังแบบเก่าผ่านเทป ซีดี
ปัจจุบัน เราแทบไม่เห็นการนำแผ่นหนังใหม่มาวางจำหน่ายแล้ว จากเมื่อก่อนที่รอหนังออกจากโรงภาพยนต์ ประมาณ 3 เดือน ก็จะได้เห็นวางขายในรูปแบบแผ่นดีวีดีกัน แต่ปัจจุบัน โดยเฉพาะหนังไทย ไม่มีให้เห็น หรือหากมีก็เป็นการนำเข้าจากต่างประเทศมาวางขายแทน เพราะการผลิตหนังเป็นแผ่นในไทย ไม่คุ้มค่าอีกต่อไป และผลิตออกมา ก็ทำยอดจำหน่ายได้น้อย ทั้งจากพฤติกรรมของผู้บริโภค หรือการโหลดหนังมาดูฟรีๆ
อย่างไรก็ตาม เรากลับได้เห็น ฟอร์แมตอย่าง เทป และ แผ่นเสียง ฟื้นคืนชีพขึ้นมา แม้จะยังจำกัดเฉพาะคนกลุ่มหนึ่ง
จริงๆแล้ว แผ่นเสียงกลับมาก่อนเทปสักช่วงระยะเวลาหนึ่ง โดยกระแสนิยมฟังเพลงจากแผ่น บ้างก็ว่าได้อรรถรสด้านเสียงดีกว่าแผ่นซีดี ทั้งนี้ ขึ้นกับรสนิยมความชอบ และประสบการณ์ของแต่ละคน
ส่วนที่มาแรงตอนนี้ คือ เทปเพลง หลังจากที่ล้มหายตายจากไปจากการเข้ามาแทนที่ของซีดีเพลงเกือบจะยี่สิบปีก่อน แต่ปัจจุบัน เทปเพลง กลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้งในหมู่คนฟังเพลง ยิ่งในต่างประเทศแล้ว ศิลปินรุ่นใหม่นิยมออกผลงานในรูปแบบเทป และได้รับการตอบรับจากแฟนๆ เช่นเดียวกับตลาดในไทย ก็มีศิลปินไทยไม่น้อยที่ออกอัลบ้้มมาเป็นเทป แม้ว่าราคาจะสูงกว่าราคาเทปสมัยก่อน สูงกว่าแผ่นซีดีด้วยซ้ำไป
รายงานเปิดเผยว่า เทปที่จำหน่ายในปัจจุบัน แบ่งได้เป็นสองประเภท คือ
- เทปเพลงเก่า ที่ผลิตมานานแล้ว จัดเป็นเทปมือสอง ซึ่งมีทั้งแบบซีล (ยังไม่แกะพลาสติกหุ้ม) และไม่ซีล แต่เทปบางชุด หายาก ก็จะมีราคาสูง นิยมนำมาประมูล หรือเสนอราคากันในกลุ่ม เช่น เทปเพลงของวงบอดี้แสลม, โมเดิร์นด็อก ซิลลี่ ฟูล,พาราด๊อกซ์, คาราบาว ราคาไปถึงหลักหมื่น หลักพัน ยิ่งหากอัลบั้มนั้นเป็นที่นิยม หายาก เป็นผลิตออกมาเป็นปกแรกๆ ก็จะยิ่งได้ราคา
- เทปผลิตใหม่ เปิดให้จอง สั่งซื้อก่อนผลิต และผลิตจำนวนตามยอดสั่งจอง/ซื้อ โดยมีราคาขายเทปใหม่ ประมาณ 600-700 บาท ถือว่าเป็นเทรนด์เลยทีเดียวที่ศิลปิน ออกผลงานเป็นรูปแบบเทปมาให้แฟนเพลงได้สะสม ซึ่งส่วนใหญ่ ได้รับกระแสตอบรับดีมาก อย่างเช่น อัลบ้้มชุด คราม และ ดัมมะชาติ ของบอดี้แสลมที่ผลิตใหม่ในแบบคาสเซ็ตเทป เปิดให้สั่งจองในราคาม้วนละ 690 บาท และหมดไปในเวลาอันรวดเร็ว หรือก่อนหน้านี้ อย่างเทปของศิลปินอย่าง Polycat ก็เช่นกัน และบางม้วนที่เป็นที่ต้องการมาก และไม่มีการผลิตซ้ำ หากนำมาขายต่อ อาจได้ราคาสูงถึงหลักพันเลยทีเดียว
จากข้อมูลของเพจ คนรักเทปวินเทจ พบว่า เทปเพลงเก่า บางม้วน สามารถเปิดประมูลได้ราคาสูงถึงหลักหมื่น คือ เทปชุด save my life ของวงบอดี้แสลม ได้ราคาถึง 12,000 บาท เทปอัลบั้มแรกของวงคาราบาว ชุด ลุงขี้เมา ปกแรก ได้ราคาถึง 9,500 บาท เทปอัลบั้ม ep ของซิลลี่ฟูล 5050 บาท เทปของวงscrubb ได้ราคาถึง 7800 บาท
ขณะที่เทปที่ผลิตใหม่ แต่มีความต้องการในตลาดมาก ทำให้ราคาซื้อต่อสูง เช่น เทปของวง Polycat 4500 บาท เขียนไขวานิช 4200 บาท
ต้องถือว่า ตลาดของสะสม เช่น เทปเพลง หากลูกค้า หรือความต้องการสิ่งของนั้นมีสูง ราคาอาจไม่ใช่ปัญหาเลยสำหรับนักสะสม เพราะหากแลกได้มากับสิ่งของที่หายาก มีคุณค่าทางจิตใจแล้ว หรืออาจมองในแง่การลงทุนก็คุ้มค่าเพราะมีราคาในอนาคตแล้ว นอกจากนี้ บางคนยังเชื่อว่า การฟ้งเทปทำให้เข้าถึงผลงานเพลงได้มากกว่าการฟังออนไลน์
แน่นอนว่า หากยังมีความต้องการ ตลาดเทปเพลงก็จะสามารถดำเนินอยู่ต่อไปได้หลังจากฟื้นคืนชีพมาได้แล้ว เราอาจเห็นราคาเทปทำสถิติราคาซื้อขายสูงกว่านี้อีกก็เป็นได้ในอนาคต
ขอบคุณ ข้อมูล และภาพประกอบบางส่วนจาก เพจ “คนรักเทปวินเทจ”