ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 10 ก.ค.63 ปิดที่ 1,350.50 จุด ลดลง 15.31 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 64,196.73 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 1,157.76 ล้านบาท
ตลอดทั้งสัปดาห์นี้ ดัชนีหุ้นไทยลดลง 21 จุด นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 261 ล้านบาท ขณะที่สถาบันขายสุทธิ 6,465 ล้านบาท พอร์ตบริษัทหลักทรัพย์ขายสุทธิ 583 ล้านบาท ขณะที่รายย่อยซื้อสุทธิ 6,788 ล้านบาท
หลังเผชิญแรงกดดันจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ระลอก 2 ในหลายประเทศ โดยความคาดหวังในปัจจัยบวกที่คาดว่าจะเห็นพัฒนาการที่ดีขึ้นในภาคการท่องเที่ยวกับประเด็น Travel bubble ได้ถูกเลื่อนออกไป
ขณะที่การเมืองภายในประเทศกลับมาร้อนแรงอีกครั้ง คาดว่าจะมีการปรับ ครม.ในเร็วๆนี้ หลังกลุ่ม 4 กุมารถอนตัวออกจากพรรคพลังประชารัฐ
บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) มองทิศทางตลาดสัปดาห์หน้าคาดดัชนีจะยังแกว่งตัวในทิศทางขาลง หรือ Sideway down หลังสัญญาณทางเทคนิคออกมาไม่ค่อยดี โดยดัชนีหลุดแนวรับสำคัญที่ 1,360 จุด หากจะรักษาภาพขาขึ้น ในระยะกลางดัชนีไม่ควรหลุด 1,360 จุด และหากลงต่อก็มีความเสี่ยงที่จะลงลึกได้ เนื่องจากวิกฤติ COVID-19 ยังเป็นปัจจัยกดดันหลัก
ขณะที่ต้องติดตามท่าทีของนายกรัฐมนตรีต่อการสรรหาทีมเศรษฐกิจชุดใหม่ หลังการปรับคณะรัฐมนตรี ซึ่งประเด็นการเมืองจะมีผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน โดยเฉพาะโฉมหน้ารัฐมนตรีเศรษฐกิจคนใหม่
ส่วนผลประกอบการหุ้นกลุ่มแบงก์ที่จะเริ่มทยอยประกาศงบ Q2/63 ออกมา ซึ่งตลาดคาดว่าจะย่ำแย่ แม้จะออกมาแย่ตามที่คาดไว้จริง มุมมอง (Outlook) ในอนาคต นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะยังไม่เห็นปัจจัยบวกที่เด่นชัด โดยเป็นภาพกลางๆ (Neutral) มากกว่า
แนะกลยุทธ์การลงทุน ให้เปลี่ยนกลุ่มเล่น ไปยังหุ้น Defensive แนะหุ้น RATCH หรือธีม Earning play มีหุ้น MTC-BCH เด่น
ด้านเทคนิคประเมินแนวรับไว้ที่ 1,320 จุด ส่วนแนวต้าน อยู่ที่ 1,390 จุด!!
ที่มา คอลัมน์ เงาหุ้น โดย อินเด็กซ์ 51 หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ