ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 1 มิ.ย.63 ปิดที่ 1,352.37 จุด บวก 9.52 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 65,154.66 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,393.92 ล้านบาท
“ณัฐชาต เมฆมาสิน” ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์ บล.ทรีนีตี้ มองการลงทุนเดือน มิ.ย.ความตึงเครียดระหว่างจีนและสหรัฐฯ มีโอกาสพัฒนาไปสู่สงครามการค้ารอบสอง มีน้ำหนักต่อการลงทุนมากขึ้น หลังสภาประชาชนแห่งชาติของจีนผ่านกฎหมายความมั่นคงในฮ่องกง
โดยสหรัฐฯ ประกาศขึ้นบัญชีดำกับบริษัทจีนบางแห่ง และจีนตอบโต้ด้วยการกำหนดค่ากลางเงินหยวนให้อ่อนค่ามากขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แนะจับตาค่ากลางเงินหยวนนี้ใกล้ชิด หากอ่อนค่ามากขึ้นจะเป็นสัญญาณไม่ดีถึงโอกาสที่สหรัฐฯ จะกลับมาขึ้นบัญชีดำจีน กรณีบิดเบือนค่าเงิน และออกมาตรการตอบโต้ทางการค้าต่างๆได้
สถานการณ์เช่นนี้ แนะนำหลีกเลี่ยงลงทุนหุ้นวัฏจักร (Cyclical) เช่น พลังงาน ปิโตรเคมี อิเล็กทรอนิกส์ และหลบเข้าลงทุนหุ้นกลุ่มปลอดภัยจากปัจจัยภายนอกคือ 1. กลุ่มโรงไฟฟ้า แนะนำ BGRIM, GPSC, GULF, RATCH, EGCO
2.กลุ่มสื่อสาร เชียร์ ADVANC, INTUCH 3. กลุ่มขนส่งมวลชน ชอบ BTS, BEM 4. กลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร แนะนำ CPF สำหรับหุ้นใหญ่ และ TFG, GFPT, ASIAN, CFRESH, CHOTI, APURE, SUN, RBF, XO, MALEE 5.หุ้นขนาดกลาง-เล็กชอบธุรกิจบริหารสินทรัพย์ ชู JMT เด่น 6.หุ้นเก็งกำไรบนธีมย้ายฐานการผลิตจากสงครามการค้า เช่น กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม แนะนำ AMATA
สำหรับกลยุทธ์ลงทุนเดือนนี้ ให้กระจายเงินลงทุนบางส่วนไปหุ้นขนาดกลางและเล็กเพราะจะเป็นกลุ่มหุ้นที่แข็งแกร่งกว่าตลาดช่วง 3-4 เดือนข้างหน้า เนื่องจากกำไรหุ้นมีแนวโน้มแข็งแกร่งกว่าหุ้นใหญ่ใน SET50 ที่ยังเสี่ยงถูกลดประมาณการ และหุ้นขนาดกลางและเล็ก ซื้อขายต่ำกว่าตลาดมากว่า 3 ปี พี/อี ยังถูก มีโอกาสที่กำไรจะโต 50% ในปีหน้า ขณะที่กำไรหุ้นใหญ่จะโตเพียง 20%
หุ้นน่าสนใจเดือนนี้ ได้แก่ การประกาศรายชื่อหุ้นที่จะนำเข้า-ออก SET50 และ SET100 ที่จะมีผลในเดือน ก.ค.เป็นต้นไป คาดว่าหุ้นที่จะนำเข้าคำนวณใน SET50 คือ TTW, BBP ส่วนที่จะถูกถอดคือ WHA และ BANPU
สำหรับ SET100 หุ้นที่คาดว่าจะนำเข้าคำนวณคือ ACE, TVO, WHAUP, DOHOME, SIRI, RBF, SISB ส่วนหุ้นที่จะถูกถอดออกคือ MBK, THG, THAI, ERW, STPI, BGC และ PSL!!
ที่มา คอลัมน์ เงาหุ้น โดย อินเด็กซ์ 51 หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ