ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 9 มิ.ย.63 ปิดที่ 1,408.37 จุด ลดลง 30.29 จุด ระหว่างวันร่วงลงไปลึกสุด 37.79 จุด ขณะที่มูลค่าซื้อขายหนาแน่น 115,559.91 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 485.70 ล้านบาท
หุ้นมูลค่าการซื้อขายสูงสุด MINT ปิด 23.90 บาท บวก 0.80 บาท, BAM ปิด 25 บาท ลบ 1 บาท, PTT ปิด 39 บาท ลบ 1.75 บาท, PTTEP ปิด 95.50 บาท ลบ 6 บาท และ CPALL ปิด 71.50 บาท ลบ 0.75 บาท
หุ้นไทยโดนแรงเทขายทำกำไรกดดัน หลังดัชนีทะยานขึ้นมาอย่างต่อเนื่องร้อนแรงหลายวันติด ขณะที่เพียงเวลา 2 เดือนกว่า ดัชนีปรับขึ้นจากจุดต่ำสุดของปีในช่วงปลายเดือน มี.ค.แล้วถึง 40% ทำให้ตลาดหุ้นไทยเริ่มตรึงตัว โดยราคาหุ้นแพงขึ้นมามากแล้ว ขณะที่ผลประกอบการกำไรตามไม่ทัน
ฝ่ายวิจัย บล.โนมูระ พัฒนสิน มองดัชนีปรับลงแรงเพราะเริ่มเข้าสู่ช่วงการปรับฐานแล้ว หลังปรับขึ้นตามหุ้นโลกมากว่า 40% นับแต่ 23 มี.ค.ที่ผ่านมา ประเมินแนวรับการปรับฐานรอบนี้ไว้ที่ 1,374- 1,393 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,425-1,430 จุด กลยุทธ์ลงทุนช่วงนี้ แนะ “ลดน้ำหนัก” หรือ “ทยอยขายทำกำไร”
เช่นเดียวกับ บล.ฟิลลิป ที่ชี้ว่า SET เข้าสู่ช่วงพักฐานจากความไม่แน่นอนทางการเมืองในประเทศ และแรงซื้อต่างชาติไม่มีความต่อเนื่อง ด้านเทคนิคให้แนวรับที่ 1,400-1,410 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,430 จุด แนะเก็งกำไรด้วยความระมัดระวัง หากดัชนีไม่หลุด 1,400 จุดยังซื้อเก็งกำไรได้ แต่ถ้าหลุดควรชะลอลงทุน เพื่อรอดูสถานการณ์อีกครั้ง
ด้าน บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า การปรับขึ้นจากจุดต่ำสุดที่ 969.08 จุด ถึงปัจจุบันขึ้นมาแล้ว 48.5% มาที่ 1,438.66 จุด เป็นการขึ้นบนความคาดหวังการฟื้นตัวเศรษฐกิจระยะยาว และมองข้ามปัญหาเศรษฐกิจรวมถึงผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนช่วงที่เหลือของปีนี้ บวกกับมูลค่าซื้อขายที่สูงเกินกว่า 1 แสนล้านบาทต่อวัน แสดงให้เห็นว่าตลาดอยู่ในภาวะการเก็งกำไรอย่างเห็นได้ชัด จนทำให้ Valuation ตลาดปีนี้เต็มในเกือบทุกมิติ
ทำให้ SET Index ซื้อขายบนค่า PER สิ้นปี 63 ที่ 22.47 เท่าไปแล้ว ถือว่าแพงและสูงสุดในภูมิภาค แม้จะใช้วิธี Valuation ที่เป็นเชิงรุกที่สุด ก็ยังให้ค่า SET Index อยู่ที่เพียง 1,441 จุด เท่ากับว่าที่ระดับปัจจุบันเต็มมูลค่าไปแล้ว ดังนั้นต้องระวังแรงขายทำกำไรจากนักลงทุนสถาบัน ที่มีต้นทุนเฉลี่ยหลังเข้าซื้อที่ดัชนีราว 1,203 จุด มีกำไรแล้วกว่า 20% ช่วงไม่ถึง 3 เดือน
ส่วนหุ้นดีที่ยังมีอัปไซด์โดดเด่น คือ BJCHI, STEC, CK, AMATA, WHA, TPIPL, SCCC และ INTUCH แต่หุ้นที่เป็นดาวเด่นสุด คือ TPIPL และ INTUCH!!
ที่มา คอลัมน์ เงาหุ้น โดย อินเด็กซ์ 51 ข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ