วันที่ 14 พ.ค.63 ปิดที่ 1,280.40 จุด ลดลง 14.15 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 46,654.45 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 1,947.80 ล้านบาท
หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด CPALL ปิด 70.25 บาท ลบ 1.50, BAM ปิด 23.10 บาท ลบ 0.40 บาท, CPF ปิด 28.75 บาท บวก 0.50 บาท, PTT ปิด 35.50 บาท ลบ 0.50 บาท และ AOT ปิด 59.75 บาท ลบ 0.50 บาท
ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงต่อ สอดคล้องกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาค หลังกังวลแนวโน้มเศรษฐกิจโลกชะลอตัว
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์โควิดในไทยมีแนวโน้มดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งจะหนุนให้รัฐบาลพิจารณาผ่อนคลายให้กิจการต่างๆกลับมาดำเนินการได้เร็วขึ้น โดยล่าสุด การผ่อนคลายในระยะที่ 2 คาดว่าจะเริ่ม 17 พ.ค.63
บล.เอเซีย พลัส คาดว่าจะดีต่อธุรกิจที่สามารถกลับมาดำเนินการได้ อาทิ ห้างสรรพสินค้า และ Community Mall, ร้านอาหารที่ตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้า, ร้านค้าปลีก, สปา เป็นต้น แต่การผ่อนคลายดังกล่าวน่าจะยังไม่ทำให้กำไรของบริษัทในกลุ่ม กลับมาฟื้นตัวเป็นปกติ
แต่จะส่งผลบวกในเชิง Sentiment เป็นหลัก ในหุ้นรายตัว ดังนี้ หุ้นศูนย์การค้า เช่น CPN ได้ Sentiment เชิงบวกจากการกลับมาเปิดห้างสรรพสินค้า เนื่องจากมีการปิดห้างสรรพสินค้าต่อเนื่องในเดือน เม.ย. ขณะที่คาดว่าห้างสรรพสินค้าต้องมีการให้ส่วนลดค่าเช่าแก่ผู้เช่าต่อเนื่อง แม้รายได้ค่าเช่าบริการฟื้นตัวขึ้นใน 2H63 เทียบกับ 1H63 แต่ยังไม่กลับสู่ระดับปกติ
หุ้นกลุ่มค้าปลีก ประเมินร้านค้าปลีกที่ปิดสาขาในช่วงก่อนหน้า เริ่มกลับมาเปิดสาขาได้แล้วราว 50% ของสาขาทั้งหมด แต่ส่วนใหญ่ยังเป็นสาขาต่างจังหวัด และส่วนที่เหลือคาดจะกลับมาเปิดได้ในวันที่ 17 พ.ค.63 การเข้าลงทุนจึงเน้นในกลุ่มที่ได้ประโยชน์กลับมาเปิดสาขาสูง เช่น COM7 (ให้มูลค่าพื้นฐาน 23.50 บาท) และ DOHOME (มูลค่าพื้นฐาน 7.90 บาท)
โดยเอเซีย พลัส ชื่นชอบ CPN และ COM7 มากสุด โดยน่าจะเป็นเป้าหมายที่ดีสำหรับ Fund Flow ในลำดับถัดไป โดยหากศูนย์การค้าเปิด 17 พ.ค.63 คาดส่งผลให้ราคาหุ้น CPN ที่ Laggard SET Index อยู่ ณ ปัจจุบัน จะกลับมา
Outperform ได้ในเวลาถัดไป และ CPN มีฐานะการเงินที่แข็งแรง เชื่อว่าจะรับมือกับวิกฤติครั้งนี้ได้ดี และพร้อมกลับมาเติบโตมั่นคงในระยะยาว อีกทั้งมี Upside สูงเป็นลำดับต้นๆในกลุ่มศูนย์การค้า!!
ที่มา คอลัมน์ เงาหุ้น โดย อินเด็กซ์51 หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ