หุ้นการบินไทยปรับตัวลง หลังราคาวิ่งขึ้นชนเพดาน 2 วันติด โดยโบรกเกอร์ออกโรงเตือนผู้ถือหุ้นที่กำลังเข้าสู่การฟื้นฟูกิจการแม้ระยะยาวอาจเป็นผลดีต่อธุรกิจ แต่ผู้ถือหุ้นจะได้รับความเสียหายจากการลดทุน-เพิ่มทุน จนทำให้สัดส่วนและมูลค่าหุ้นที่ถืออยู่ลดลงได้ ในกระบวนการฟื้นฟูและปรับโครงสร้างทุน
ล่าสุด “แมนพงศ์ เสนาณรงค์” รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ออกบทความให้ข้อมูลว่า เมื่อบริษัทเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการแล้ว บริษัทจดทะเบียนมีหน้าที่ต่อผู้ถือหุ้น โดยจะต้องเปิดเผยข้อมูลสำคัญให้ทราบโดยทั่วถึงกัน ทั้งข้อมูลงบการเงิน ข้อมูลสำคัญที่มีผลต่อราคาหุ้น มติที่ประชุมกรรมการบริษัท มติที่ประชุมผู้ถือหุ้น รวมทั้งข้อมูลอื่นๆ ที่มีนัยสำคัญต่อการตัดสินใจของผู้ลงทุน
เมื่อบริษัทเข้าสู่การฟื้นฟูกิจการ ก็ยังมีหน้าที่เหมือนบริษัทจดทะเบียนอื่น คือต้องเปิดเผยข้อมูลต่างๆ ที่เพิ่มเติมคือการรายงานข้อมูลเกี่ยวกับการเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ เช่น การยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาล สาระสำคัญของแผนฟื้นฟูเมื่อศาลอนุมัติแผนฟื้นฟูกิจการ และบริษัทมีหน้าที่รายงานความคืบหน้าการดำเนินงานตามแผนฟื้นฟู ต่อผู้ลงทุนทุกไตรมาส ส่วนการส่งงบการเงินจะต้องส่งตามกำหนดเวลาปกติเหมือนบริษัทจดทะเบียนทั่วไป
โดยเมื่อศาลรับพิจารณาคำร้องฟื้นฟูกิจการ หรืองบการเงินมีส่วนของทุนต่ำกว่า 50% ของทุนเรียกชำระแล้ว กรณีใดกรณีหนึ่งหรือทั้งสองกรณี ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะขึ้นเครื่องหมาย C เพื่อเตือนผู้ลงทุนให้เพิ่ม ความระมัดระวัง และศึกษาข้อมูลก่อนลงทุน โดยยังคงซื้อขายได้ด้วยบัญชีเงินสดหรือ cash balance
ส่วนการขึ้น SP ห้ามการซื้อขาย เมื่อมีเหตุต่างๆ เช่น บริษัทไม่ส่งงบการเงินตามกำหนด โดยจะขึ้น NC ควบคู่ไปด้วยหากบริษัทเข้าสู่เหตุเพิกถอนจากการที่ส่วนของทุนมีค่าติดลบ ซึ่งจะพิจารณาจากงบการเงินงวดปีเท่านั้น และหุ้นจะกลับมาซื้อขายใหม่ก็ต่อเมื่อบริษัทแก้เหตุเพิกถอนตามเกณฑ์และเวลาที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ กำหนดจะเห็นว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ มีกลไกและแนวทางเพื่อดูแลผู้ถือหุ้น ครอบคลุมทั้งกรณีปกติและกรณีบริษัทจดทะเบียนที่เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นการลงทุน บริษัทจดทะเบียนเองก็มีหน้าที่แก้ไขปัญหาควบคู่กับการเปิดเผยข้อมูลให้ผู้ลงทุนรับทราบอย่างเท่าเทียม!!
ที่มา คอลัมน์ เงาหุ้น โดย อินเด็กซ์ 51 หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ