ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 30 มิ.ย.63 ปิดที่ 1,339.03 จุด เพิ่มขึ้น 9.27 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 58,589.45 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 1,173.69 ล้านบาท
หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด ADVANC ปิด 185 บาท ลบ 2 บาท, PTT ปิด 37.75 บาท บวก 0.50 บาท, KBANK ปิด 93.25 บาท บวก 0.50 บาท, CBG ปิด 104 บาท บวก 4.50 บาท และ KCE ปิด 22.80 บาท บวก 1.30 บาท
หุ้นไทยพลิกกลับมาแดนบวกตามเซนติเมนต์ตลาดหุ้นต่างประเทศและราคาน้ำมันที่ปรับขึ้น ขณะที่เม็ดเงินจากกองทุน SSFX ไหลเข้าตลาดหุ้นเป็นวันสุดท้าย
บล.เอเชีย เวลท์ มีมุมมองหุ้นไทยเดือน ก.ค.63 ผันผวนโดยมีแนวรับ 1,295 จุด และแนวต้านที่ 1,370 จุด จาก 3 ปัจจัยดังนี้ 1.การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 บางประเทศที่เริ่มเข้าสู่การแพร่ระบาดรอบ 2 รวมถึงจำนวนผู้ติดเชื้อในสหรัฐฯ ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องซึ่งสร้างความผันผวนให้ตลาดหุ้นทั่วโลก
2.มูลค่าของตลาดหุ้นไทยปัจจุบันอาจแพงเกินไปแล้ว โดยอยู่ที่ P/E 19 เท่า มากกว่าในอดีตที่ซื้อขายอยู่ที่ P/E 16 เท่า ทำให้สร้างความกังวลให้กับนักลงทุน 3.กำไรบริษัทจดทะเบียน (EPS) ปี 63 อาจถูกปรับลงอีก
นักวิเคราะห์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) มีมุมมอง “เป็นกลาง”
ต่อตลาดหุ้นไทยเดือน ก.ค.นี้ มองหุ้นไทยอยู่ในช่วงของการพักฐานต่อเนื่องจากช่วงเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา ด้านเทคนิคประเมินแนวรับไว้ที่ 1,250 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,400 จุด
ด้าน บล.เอเซีย พลัส ชี้ว่า หนึ่งในอุปสรรคที่ขวางการไหลเข้าของฟันด์โฟลว์ คือ แนวโน้มการปรับลดประมาณการกําไรบริษัทจดทะเบียน (EPS) ลง ทั้งนี้ Consensus ยังคงทยอยปรับประมาณการกําไรปี 63 ลงมาต่อเนื่องจนล่าสุดอยู่ที่ 65.38 บาท/หุ้น ใกล้เคียงกับระดับที่ฝ่ายวิจัยฯประเมินในช่วงก่อนหน้าที่ 64 บาท/หุ้น
ทั้งนี้ ประเมินว่าตลาดหุ้นไทยยังมีความเสี่ยงที่จะถูกปรับประมาณการกำไรลงอีก เนื่องจากภาพรวมกำไรบริษัทจดทะเบียนครึ่งปีแรกทำได้เพียง 30-40% ของประมาณการทั้งปี 63.
ที่มา คอลัมน์ เงาหุ้น โดย อินเด็กซ์ 51 หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ