นายสุรพล โอภาสเสถียร ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (เครดิตบูโร) กล่าวว่า เครดิตบูโรได้รับแจ้งจากผู้ยื่นคำขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินที่เป็นสมาชิกของเครดิตบูโรหลายรายผ่านช่องทางต่างๆ ว่าเมื่อสถาบันการเงินได้รับรู้ข้อมูลของผู้ยื่นคำขอสินเชื่อแล้ว ภายหลังจากที่ผู้ยื่นคำขอสินเชื่อได้ลงนามในหนังสือให้ความยินยอมเปิดเผยข้อมูลจากเครดิตบูโรแล้ว สถาบันการเงินที่เป็นสมาชิกมีเหตุให้ต้องปฏิเสธการให้สินเชื่อ พบว่าสถาบันการเงินที่เป็นสมาชิกบางราย ไม่ได้ออกหนังสือปฏิเสธสินเชื่อให้แก่ผู้ยื่นคำขอสินเชื่อ ตามมาตรา 28 แห่งพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจข้อมูลเครดิต พ.ศ. 2545 ซึ่งกำหนดให้เป็นหน้าที่ของสถาบันการเงินที่เป็นสมาชิกที่จะต้องแสดงเหตุผลในการปฏิเสธการให้สินเชื่อให้ผู้ยื่นคำขอสินเชื่อทราบเป็นหนังสือหรือวิธีการอื่นใดตามที่ได้ตกลงกันไว้และเป็นสิทธิของผู้ยื่นคำขอสินเชื่อ(ซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลตามที่กฎหมายกำหนด) ที่จะได้รับหนังสือดังกล่าวเพื่อนำมายื่นใช้สิทธิตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลกับเครดิตบูโรโดยไม่เสียค่าธรรมเนียม อันเป็นการคุ้มครองสิทธิของเจ้าของข้อมูลโดยบทบัญญัติแห่งกฎหมาย”
ทั้งนี้ การไม่ดำเนินการตามบทกฎหมายดังกล่าวข้างต้น อาจส่งผลทำให้สมาชิกซึ่งเป็นองค์กรสถาบันการเงิน ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ของสมาชิกได้รับโทษทางอาญาในอัตราสูงตามที่กฎหมายกำหนดตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืนอยู่หรือจนกว่าจะได้ปฏิบัติให้ถูกต้อง ด้วยเหตุดังกล่าว เครดิตบูโรจึงได้ขอความร่วมมือไปยังสถาบันการเงินที่เป็นสมาชิกให้ความเข้มงวดและกำชับการปฏิบัติงานของผู้ที่เกี่ยวข้องในกระบวนการปฏิเสธการให้สินเชื่อให้ถือปฏิบัติตามที่กฎหมายกำหนดด้วยความระมัดระวัง หากเกิดกรณีที่มีการไม่ปฏิบัติตามก็ขอได้โปรดพิจารณาลงโทษสถานหนัก ทั้งนี้ก็เป็นไปเพื่อป้องกันและบริหารความเสี่ยงด้านกฎหมาย อย่างไรก็ดี หากปัญหาดังกล่าวยังคงมีจำนวนกรณีเพิ่มมากขึ้นหรือถูกละเลยจนเกินสมควรแล้ว เครดิตบูโรก็อาจมีความจำเป็นที่จะต้องส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลเครดิตเพื่อพิจารณาต่อไป