นายคำนูณ สิทธิสมาน สมาชิกวุฒิสภา โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Kamnoon Sidhisamarn ว่า “คำยืนยันจาก SCG และ TLT” ได้รับโทรศัพท์จากคุณประมนต์ สุธีวงศ์ เมื่อสักครู่นี้ คุยเรื่องข้อเสนอแนะหรือข้อสมมติที่ผมโพสต์เสนอไป 2 วันก่อนว่า ถ้าเป็นมหาเศรษฐีรายต้น ๆ ที่ได้รับจดหมายจากท่านนายกฯ จะเสนอตัวช่วยชาติเป็นปฐมด้วยการขอซื้อหุ้นกู้ที่บริษัทในเครือออกมา Rollover ก่อน “เป็นการส่วนตัว” ก่อนที่กองทุน BSF วงเงิน 4 แสนล้านบาท ธนาคารชาติตาม พระราชกำหนดจะเข้ามาช่วย
ท่านให้ความเห็นโดยสรุปว่า เชื่อว่าธนาคารชาติมีเจตนาดี ที่จะช่วยตั้งทำนบเป็นด่านสุดท้ายไว้ เพราะตลาดหุ้นกู้มีปัญหาทั่วโลก แต่ในทางปฏิบัติท่านเชื่อว่าบริษัทใหญ่ ๆ ในไทยจะพยายามช่วยตัวเองให้มากที่สุด ไม่ขอเข้าโครงการรับความช่วยเหลือจากกองทุน BSF ง่าย ๆ เพราะจะเป็นเครดิตของบริษัทเอง
ท่านยืนยันว่าได้รับทราบจากผู้บริหารระดับสูงสุดของบริษัทที่ท่านเกี่ยวข้องอยู่ 2 บริษัท คือ ปูนซิเมนต์ไทย (SCG) และโตโยต้า ลิสซิ่ง (TLT) ที่หุ้นกู้จะครบกำหนดในปี 2563 นี้เป็นอันดับ 2 (มูลค่า 25,000 ล้านบาท) และ 3 (มูลค่า 20,720 ล้านบาท) ตามข้อมูลที่ก.ล.ต.เปิดเผยทั่วไป และคุณนวพร เรืองสกุลรวมทั้งสื่อมวลชนนำมาเผยแพร่ (ตามภาพ) ว่า….
ทั้ง SCG และ TLT มีศักยภาพที่จะช่วยตัวเองได้ จะไม่ขอเข้าโครงการกองทุน BSF ของธนาคารชาติตามพระราชกำหนด
ผมก็ได้แต่เปล่งเสียงอนุโมทนาสาธุ และบอกว่าจะเป็นคุณูปการอย่างยิ่ง เพราะจะเป็นตัวอย่างที่ดียิ่งและเป็นการนำตลาด สุดท้ายจะช่วยเซฟเงินของชาติ 4 แสนล้านบาท ไว้ให้ได้มากที่สุด ท่านอนุญาตให้ผมเปิดเผยข้อมูลที่คุยกันนี้ต่อสาธารณะได้ครับ กราบขอบพระคุณครับ และขอบพระคุณ SCG และ TLT มา ณ ที่นี้