นายชาญชัย กงทองลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ เปิดเผยว่า บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ ร่วมกับคุณจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้ง พัฒนาความรู้ การลงทุนใน Cryptocurrency ที่ถูกต้องให้กับนักลงทุน โดยอาศัยบทวิจัยและบทวิเคราะห์ทางเชิงปริมาณเพื่อเป็นแนวทางให้กับนักลงทุนในการจัดการสินทรัพย์ประเภทการลงทุนทางเลือก (Alternative Investment) เพื่อเป็นการต่อยอดของการจัดการสินทรัพย์
โดยความร่วมมือธุรกิจในครั้งนี้บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จะเป็นผู้แนะนำลูกค้า เพื่อเปิดบัญชีซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลกับศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล บิทคับ ออนไลน์ จัดกิจกรรมให้ความรู้เกี่ยวกับ สินทรัพย์ดิจิทัล (Cryptocurrency)ให้แก่ลูกค้าและนักลงทุนทั่วไป สินทรัพย์ดิจิทัล เป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เกิดขึ้นไม่นาน นักลงทุนส่วนใหญ่ยังไม่มีข้อมูล และความรู้ในเรื่องนี้มากนัก การให้ความรู้ที่ถูกต้อง จึงเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง
ดร.วิศิษฐ์ องค์พิพัฒนกุล กรรมการผู้จัดการ บล. ทรีนีตี้ เปิดเผยว่า ทรีนีตี้ ตระหนักถึงความสำคัญที่นักลงทุนจะต้องบริหารสินทรัพย์ โดยการจัดสัดส่วนการลงทุน (Asset Allocation) ให้สอดคล้องกับการผันผวนของเศรษฐกิจโลก โดยได้แนะนำให้ นักลงทุนแบ่งสัดส่วนการลงทุนดังนี้ คือ
1. ลงทุนในตลาดหุ้นไทย สัดส่วน 20% เพราะตลาดหุ้นไทยมีความโดดเด่นเรื่องผลตอบแทนจากเงินปันผล
2. ลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ สัดส่วน 15% เน้นน้ำหนักลงทุนในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและอาหาร
3. ลงทุนในตราสารหนี้ที่มีคุณภาพ สัดส่วน 30% เพื่อที่จะรับกระแสเงินสดจากดอกเบี้ยสม่ำเสมอ
4. ลงทุนในทองคำ สัดส่วน 5-10% เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงในสหรัฐฯ ที่ติดลบ จะส่งผลดีต่อราคาทองคำ
5. ถือเงินสด 25% เพื่อรอจังหวะซื้อสินทรัพย์ในช่วงที่มีราคาถูก
6. ลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือก (Alternative Investment) เช่น Bitcoin หรืออื่นๆ ในสัดส่วน 1-5%
”ในปี 2020 การลงทุนใน Bitcoin ให้ผลตอบแทนกว่า 53% นับตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน ส่วนการลงทุนทองคำในรูปเงินบาท ให้ผลตอบแทนกว่า 32% หุ้น NASDAQ ที่ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเทคโนโลยีให้ผลตอบแทน 19% หุ้นจีน ให้ผลตอบแทน 7% ขณะที่หุ้นไทยให้ผลตอบแทนติดลบ 14.7% และ Thai REIT ให้ผลตอบแทนติดลบมากถึง 20.4%”
ทรีนีตี้มองว่า การจัดสรรเงินลงทุนใน Cryptocurrency ในระดับ 1-5% เป็นการกระจายความเสี่ยงของการลงทุน เนื่องจาก Cryptocurrency มีความสัมพันธ์ที่มีสหพัทธ์หรือ Correlation กับราคาสินทรัพย์อื่นๆ ในระดับต่ำ และปัจจุบันความผันผวนของสินทรัพย์ของ Cryptocurrency ได้ลดลงมาในระดับ 50% ซึ่งพอรับได้ในฐานะที่เป็นสินทรัพย์ทางเลือก เมื่อเปรียบเทียบกับความผันผวนในอดีตที่ระดับ 80-90%