Home Blog Page 53

วิธีทำงานที่บ้านให้ปลอดภัยจากโจรไซเบอร์

ช่วงนี้ หลายคนต้องเปลี่ยนสถานที่ทำงานจากออฟฟิศ มาประจำอยู่กับบ้านแทน จากเหตุการณ์ COVID-19 แพร่ระบาด นอกจากต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรม สร้างวินัยการทำงานใหม่ ตระเตรียมความพร้อมของอุปกรณ์แล้ว อีกสิ่งที่ไม่ควรละเลย คือ การป้องกันไม่ให้โดนคุกคามทางไซเบอร์

ทางสถาบัน SANS ซึ่งเป็นสถาบันฝึกอบรมและวิจัยด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ ได้มีข้อแนะนำ 5 ข้อตามนี้

1. ระวังไม่ให้ตกเป็นเหยื่อการโจมตีแบบ Social Engineering เนื่องจากการปฏิบัติงานจากบ้านนั้นจำเป็นต้องมีการติดต่อสื่อสารหรือรับส่งไฟล์กับบุคคลอื่นมากกว่าการทำงานตามปกติ มิจฉาชีพอาจฉวยโอกาสนี้ในการส่งอีเมลหลอกลวง แนบไฟล์มัลแวร์ หรือแนบลิงก์ที่พาไปยังเว็บไซต์ฟิชชิ่งเพื่อหลอกขโมยรหัสผ่านได้ จึงควรทบทวนกระบวนการสั่งงานและการอนุมัติสั่งงาน เนื่องจากการโจมตีประเภท Business Email Compromise หรือ CEO Fraud ซึ่งเป็นการแฮกอีเมลของผู้บริหารแล้วสั่งให้ส่งข้อมูลหรือสั่งให้โอนเงินนั้นอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อองค์กรได้

2. รักษาความมั่นคงปลอดภัยของรหัสผ่าน ต้องใช้รหัสผ่านที่คาดเดาได้ยาก และไม่ซ้ำกับรหัสผ่านที่เคยใช้ในบริการอื่น และถ้าเป็นไปได้ควรเปิดใช้งานการยืนยันตัวตน เพื่อลดผลกระทบหากเกิดเหตุการณ์รหัสผ่านหลุด รวมถึงพิจารณาใช้โปรแกรมช่วยบริหารจัดการรหัสผ่านร่วมด้วย รวมถึงการตั้งรหัสผ่าน Wi-Fi เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ไม่ได้รับอนุญาตแอบเชื่อมต่อ Wi-Fi แล้วแพร่กระจายมัลแวร์หรือดักขโมยข้อมูล

3. การทำงานจากที่บ้าน ไม่ได้แปลว่า ต้องอยู่แค่ในบ้านเสมอไป เมื่อทำธุระนอกบ้าน แล้วต้องประชุมอิเล็กทรอนิกส์หรือส่งงานบางอย่าง ถ้าเป็นไปได้ควรเชื่อมต่อ Wi-Fi จากโทรศัพท์มือถือตัวเอง แต่ถ้าต้องเชื่อมต่อ Wi-Fi สาธารณะควรใช้ VPN ทั้งนี้ควรอัปเดตระบบปฏิบัติการ ซอฟต์แวร์ที่ใช้งาน และฐานข้อมูลของโปรแกรมแอนติไวรัสอย่างสม่ำเสมอ

4. ทำความเข้าใจกับเด็กหรือคนอื่นในบ้านว่าอุปกรณ์สำนักงานที่นำไปใช้ทำงานที่บ้าน หรืออุปกรณ์ส่วนตัวที่อาจมีข้อมูลเกี่ยวข้องกับงานอยู่นั้นสงวนไว้เฉพาะกับเรื่องงานเท่านั้น ไม่ควรให้ผู้อื่นที่ไม่เกี่ยวข้องมาใช้งานอุปกรณ์ดังกล่าวเพราะอาจเสี่ยงติดมัลแวร์หรือข้อมูลรั่วไหลได้

5. เตรียมพร้อมการแจ้งเหตุและประสานงานกับทีมไอทีหรือทีมความมั่นคงปลอดภัยขององค์กร เนื่องจากการทำงานนอกสำนักงานนั้นอาจมีข้อจำกัดบางอย่างที่ทำให้ระบบการรักษาความมั่นคงปลอดภัยขององค์กรไม่อาจป้องกันได้ หากพบเหตุการณ์ผิดปกติใดๆ ควรประสานกับผู้ที่เกี่ยวข้องให้ทราบโดยเร็วที่สุด

ที่มา สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์

กทม.ปิดสวนสาธารณะ 91 แห่ง ทั่วกรุง

ตามที่กทม. มีประกาศให้ปิดสวนสาธารณะทุกแห่งทั่วกรุง ถึง 30 เม.ย.63 

ตามที่ กรุงเทพมหานคร มีประกาศเรื่อง สั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว (ฉบับที่ 5) ลงวันที่ 1 เมษายน 2563 ให้ปิดสวนสาธารณะทุกแห่ง ทั้งของรัฐ และเอกชน ตั้งแต่วันที่ 2-30 เม.ย.63 เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพมหานครมีการแพร่ระบาดมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง  

สวนสาธารณะในความรับผิดชอบของกทม. มี 91 แห่ง มีที่ไหนบ้าง ตรวจสอบรายชื่อสวนสาธารณะได้เลย

สวนสาธารณะหลัก จำนวน 39 แห่ง ประกอบด้วย ประกอบด้วย

1. สวนจตุจักร เขตจตุจักร 2. สวนรมณีย์ทุ่งสีกัน เขตดอนเมือง 3. สวนสราญรมย์ เขตพระนคร 4. สวนลุมพินี เขตปทุมวัน 5. สวนหลวง ร.๙ เขตประเวศ 6. สวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เขตบางกอกน้อย 7. สวนธนบุรีรมย์ เขตทุ่งครุ 8. สวนกีฬาบึงหนองบอน เขตประเวศ 9. สวนวชิรเบญจทัศ เขตจตุจักร 10. สวนเสรีไทย เขตบึงกุ่ม 11. สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ เขตจตุจักร 12. สวนเบญจกิติ เขตคลองเตย 13. สวนวารีภิรมย์ เขตคลองสามวา 14. สวนเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาส พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ เขตบางเขน 15. สวนนวมินทรภิรมย์ เขตบึงกุ่ม 16. สวนบางแคภิรมย์ เขตบางแค 17. สวนกีฬารามอินทรา เขตบางเขน 18. สวนทวีวนารมย์ เขตทวีวัฒนา 19. สวน 60 พรรษาสมเด็จพระบรมราชินีนารถ เขตลาดกระบัง 20. สวนพระนคร เขตลาดกระบัง 21. สวนวนธรรม เขตประเวศ 22. สวนบึงกระเทียม เขตมีนบุรี 23. สวนหนองจอก เขตหนองจอก 24. สวนวัชราภิรมย์ เขตบางเขน 25. สวนสิริภิรมย์ เขตมีนบุรี 26. สวนอุทยานเบญจสิริ เขตคลองเตย 27. สวนรมณีนารถ เขตพระนคร 28. สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบ พระชนมพรรษา เขตบางคอแหลม 29. สวนหลวงพระราม 8 เขตบางพลัด 30. สวนสาธารณะบึงน้ำลาดพร้าว 71 เขตลาดพร้าว 31. สวนสันติภาพ เขตราชเทวี 32. สวน 50 พรรษามหาจักรีสิรินธร เขตประเวศ 33. สวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เขตสาทร 34. สวนพระยาภิรมย์ เขตมีนบุรี 35. สวนสาธารณะสันติชัยปราการ เขตพระนคร 36. สวนราษฎร์ภิรมย์ เขตหนองจอก 37. สวนจรัญภิรมย์ บางพลัด 38. สวนสิรินธราพฤกษาพรรณ เขตบางกอกน้อย 39.สวนป่าวิภาวดี เขตดินแดง

สวนสาธารณะรอง จำนวน 52 แห่ง

ประกอบด้วย 1.สวนพัฒนาภิรมย์ เขตประเวศ 2.สนามบางกอก อารีนา เขตหนองจอก 3.สวนพฤกษชาติคลองจั่น เขตบางกะปิ 4.สวนป่ากาญจนาภิเษก (หน้าศูนย์การค้าเดอะมอลล์บางแค) เขตบางแค 5.สวนป่าเฉลิมพระเกียรติใต้สะพานสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เขตคลองสาน 6.สวนราชเทวีภิรมย์ ถนนใต้ทางด่วน ชอยรัชฎภัณฑ์ (หมอเหล็ง) เขตราชเทวี 7.สวนสุขภาพ เขตประเวศ 8.สวนสาธารณะบริเวณทางแยกต่างระดับถนนพุทธมณฑล สาย 2 เขตทวีวัฒนา 9.สวนพรรณภิรมย์ เขตห้วยขวาง 10.สวนไม้มงคล 76 จังหวัด เขตหนองจอก 11.สวนป่าเฉลิมพระเกียรติ บริเวณถนนบรมราชชนนีฝั่งขาออกตัดกับถนนพุทธมณฑล สาย 2 เขตทวีวัฒนา 12.สวนสมเด็จสราญราษฎร์มณีรมย์ เขตห้วยขวาง 13.สวนสาธารณะบึงสีกัน เขตหลักสี่ 14.สวนหย่อมสะพานพระปกเกล้า เขตพระนคร 15.สวนรมย์ราชเทวี เขตราชเทวี 16.สวนหย่อมทางต่างระดับ ถนนพุทธมณฑลสาย 2 ตัดกับถนนบรมราชนนี เขตทวีวัฒนา 17.สวนป่า กทม. เฉลิมพระเกียรติเชิงสะพานพระปกเกล้า เขตคลองสาน 18.สวนสุขภาพยูนิลิเวอร์ (หมู่บ้านนักกีฬาแหลมทอง) เขตสะพานสูง 19.สวนพญาไทภิรมย์ เขตพญาไท 20.สวนหย่อมรอบลานพระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เขตธนบุรี 21.สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ (สวนสายไหม) เขตสายไหม 22.สวนสาธารณะเคหะชุมชนทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ 23.สวนที่สาธารณะลำลาด(บึงเตย) เขตหนองจอก 24.สวนสุวรรณานนท์ เขตจอมทอง 25. สวนป่าเอกมัย (สวนหย่อมปลายซอยเอกมัย) เขตวัฒนา 26.สวนหย่อมเชิงสะพานพุทธยอดฟ้า(ลาน ร.1) เขตพระนคร 27.สวนหย่อมสวนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 เขตมีนบุรี 28.เกาะกลางถนนใต้สะพานพระราม 3 (สวนสวยเพื่อชีวิตและเกาะกลางถนนมไหสวรรย์) เขตบางคอแหลม 29.สวนสุขภาพร่มเกล้า 2 เขตลาดกระบัง 30.สวนสุขภาพร่มเกล้า 1 เขตลาดกระบัง 31.สวนยอดแขม เขตหนองแขม 32.สวนป้อมมหากาฬ เขตพระนคร 33.สวนบางนาภิรมย์ เขตบางนา 34.สวนคันนายาวภิรมย์ เขตคันนายาว 35.สวนสุขภาพห้วยขวาง เขตห้วยขวาง 36.สวนหย่อมใต้สะพานพระราม 3 เขตบางคอแหลม 37.สวนรัฐบุรุษ (สวนพระรามหกปากชอยสวนเงิน) เขตราชเทวี 38.สวนสุขภาพเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา เขตดอนเมือง 39.สวนบางกอกใหญ่ เขตบางกอกใหญ่ 40.สวนป่าเฉลิมพระเกียรติเชิงสะพานพุทธ เขตธนบุรี 41.สวนสาธารณะและลานกีฬาเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เขตธนบุรี 42.สวนชานบ้านดาวคะนอง-จอมทอง เขตจอมทอง 43.สวนหย่อมอุโมงค์กลับรถยนต์ถนนพัฒนาการ เขตสวนหลวง 44.สวนสาธารณะวังทอง 2 (หน้าสวนวังทอง 2) เขตวังทองหลาง 45.สวนสาธารณะวังทอง 1 (หน้าสวนวังทอง 1) เขตวังทองหลาง 46.สวนหย่อมข้างฝ่ายรักษาฯ เขตบางกะปิ 47.สวนหย่อมแท่นศิลาฤกษ์ เขตบางคอแหลม 48.สวนศรีบูรพา เขตบางกะปิ 49.สวนหย่อมพระราม 9 เขตบางกะปิ 50.สวนหย่อมสมเด็จพระธีรญาณมุนี เขตสัมพันธวงศ์ 51.สวนมณฑลภิรมย์ เขตตลิ่งชัน 52.สวนเฉลิม เขตราชเทวี

ช่วงนี้ ขอความร่วมมือประชาชนออกกำลังกายอยู่ที่บ้านไปก่อนจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น

1 เม.ย. วันออมสินปีนี้ ธนาคารงดจัดกิจกรรม

วันที่ 1 เมษายนของทุกปี เป็นวันออมสิน แต่เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ระบาด ทำให้ธนาคารออมสิน แจ้งงดจัดกิจกรรมการรับฝากเงินเพื่อรับของที่ระลึกเนื่องในวาระธนาคารออมสิน ครบ 107 ปี ในวันที่ 1 เมษายน 2563 ที่ธนาคารออมสินทุกสาขาทั่วประเทศ

หากสถานการณ์คลี่คลาย ธนาคารจะพิจารณาจัดกิจกรรมส่งเสริมการออม และของที่ระลึก โดยจะแจ้งทราบในโอกาสต่อไป

อย่างไรก็ตาม สำหรับการมอบเงินขวัญถุงให้เด็กที่เกิดในวันออมสิน ปี 63 รายละ 500 บาท และเด็กที่เกิดวันนี้ และตั้งชื่อในสูติบัตร ว่า ออมสิน รายละ 5,000 บาทนั้น ยังมีอยู่ และได้รับสิทธิตามปกติ แต่ขอความร่วมมือไม่ต้องรีบมาติดต่อธนาคารในช่วงนี้ รอให้สถานการณ์คลี่คลายขึ้นก่อนค่อยมาติดต่อภายหลังได้

แบงก์พาณิชย์ยืดเวลางดบริการเปิดบัญชีใหม่ และผูกพร้อมเพย์ จนถึง 6 เม.ย.

สมาคมธนาคารไทย และสมาคมธนาคารนานาชาติ มีมติว่าให้ธนาคารพาณิชย์ทุกแห่งยืดเวลางดให้บริการเปิดบัญชีใหม่ และบริการผูกพร้อมเพย์ที่สาขาออกไป จนถึงวันที่ 6 เม.ย.63 เพื่อหลีกเลี่ยงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

และจะกลับมาให้บริการปกติในวันที่ 7 เม.ย.63 ส่วนบริการอื่นๆ ยังดำเนินการได้ตามปกติ

ทั้งนี้ สมาคม แนะนำให้ลูกค้าเปิดบัญชี ผูกพร้อมเพย์ และทำธุรกรรมทางการเงินผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์และออนไลน์ของธนาคารต่างๆ แทน ซึ่งให้บริการตามปกติ

ยืดอายุตึ๊งของโรงจำนำรัฐ แถมลดดอกให้ผู้จำนำใหม่

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) อนุมัติโครงการ “สธค.โรงรับจำนำของรัฐ สู้ภัยโควิด19” ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เสนอ

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

1.ขยายเวลาตั๋วจำนำ
ผู้ที่มีตั๋วจำนำตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม 2563 – 31 มีนาคม 2563 วงเงินต้นไม่เกิน 10,000 บาท จะขยายเวลาตั๋วจำนำจากเดิม 4 เดือน 30 วัน เป็น 4 เดือน 120 วัน โดยไม่คิดดอกเบี้ยในส่วนที่ขยายเวลา จำกัด 1 คน 1 สิทธิ์เท่านั้น

2.ลดดอกเบี้ย
ผู้จำนำใหม่วงเงินต้นไม่เกิน 15,000 บาท ลดดอกเบี้ยเหลือร้อยละ 0.125 ต่อเดือน จำกัดสิทธิ์ 1 คน ต่อตั๋ว 1 ใบ ต่อ 1 รอบจำนำเท่านั้น

ตั้งแต่วันนี้ – 31 พฤษภาคม 2563

กระทรวงพัฒนาสังคมคาดว่าจะสามารถช่วยเหลือประชาชนในการขยายเวลาตั๋วจำนำประมาณ 41,000 รายและลดดอกเบี้ยรับจำนำประมาณ 177,600 ราย รวมทั้งสิ้นประมาณ 218,600 ราย ทั้งนี้ถือเป็นมาตรการหนึ่งในการดูแลและเยียวยาประชาชนฐานรากที่ได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

นอกจากนี้ ครม.ยังมีมติอนุมัติให้สธค.กู้เงินดอกเบี้ยต่ำ จำนวน 2,000 ล้านบาทจากธนาคารออมสิน โดยให้กระทรวงการคลังค้ำประกัน เพื่อเป็นการเตรียมเงินทุนหมุนเวียนเพื่อรองรับธุรกรรมการให้บริการรับจำนำแก่ประชาชน ขณะนี้ อยู่ระหว่างกระทรวงการคลังดำเนินการบรรจุไว้ในแผนบริหารหนี้สาธารณะ

ก.ล.ต. อนุมัติ กองทุน SSF แล้ว 17 กองทุน จาก บลจ. 13 แห่ง พร้อมขาย 1 เม.ย.

นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า หลังจาก ล่าสุด วันที่ 30 มีนาคม 2563 ก.ล.ต. ได้อนุมัติการจัดตั้งกองทุน SSF หลักทรัพย์จดทะเบียน ไปแล้ว 17 กองทุน จากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) จำนวน 13 แห่ง

“ที่ผ่านมา ก.ล.ต. ได้พิจารณาและอนุมัติการจัดตั้งกองทุน SSF หลักทรัพย์จดทะเบียนโดยเร็ว เพื่อให้กองทุนพร้อมเสนอขายแก่ผู้ลงทุนทั่วไปในวันที่ 1 เมษายน 2563”

ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2563 มีมติให้ประชาชนทั่วไปหักลดหย่อนค่าซื้อหน่วยลงทุนกองทุน SSF ที่มีนโยบายการลงทุนในหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ ได้ตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 200,000 บาท โดยแยกจากวงเงินหักลดหย่อนค่าซื้อหน่วยลงทุนในกองทุน SSF กรณีปกติ และไม่อยู่ภายใต้เพดานวงเงินหักลดหย่อนรวมในกองทุนเพื่อการเกษียณทั้งหมด โดยต้องซื้อระหว่างวันที่ 1 เมษายน 2563 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2563 และถือหน่วยลงทุนไว้ไม่น้อยกว่า 10 ปี

มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เตือนประชาชน ระวังซื้อไข่ได้ไม่เต็มแผง หากเจอให้แจ้งกรมการค้าภายใน

มูลนิธีเพื่อผู้บริโภค เตือนประชาชน ตรวจตราให้ดูตอนซื้อไข่ไก่ยกแผง หลายๆ แผง ว่า ได้ไข่เต็มแผงหรือไม่
ถ้าซื้อมาแล้ว พบว่าไข่มีไม่ครบ ไม่เต็มแผงเหมือนที่ควรจะเป็น สามารถแจ้งไปที่กรมการค้าภายในให้เข้ามาตรวจสอบ ที่เบอร์สายด่วน 1569

ทั้งนี้ตามมาตรา 85 ใน พ.ร.บ.มาตราชั่งตวงวัด พ.ศ.2542 ระบุว่า ผู้ใดขายหรือจำหน่ายหรือมีไว้เพื่อขาย หรือจำหน่ายสินค้าหีบห่อที่แสดงปริมาณไว้
โดยรู้ว่าปริมาณของสินค้าที่บรรจุในหีบห่อไม่ถูกต้องตามที่แสดงไว้ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

– –

สำนักอนามัย ออกคำแนะนำร้านอาหารเดลิเวอรี่ เพื่อความปลอดภัยของลูกค้า

นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ด้วยสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 และประกาศกรุงเทพมหานคร สั่งปิดสถานที่เสี่ยงเป็นการชั่วคราว และกำหนดให้สถานประกอบการและร้านอาหารต้องจำหน่ายแบบนำกลับไปทานที่อื่นหรือที่บ้าน(Take Away) ส่งผลให้ประชาชนหันมาใช้บริการธุรกิจขนส่งสั่งอาหารมารับประทานที่บ้านมากขึ้น เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับประชาชนและยกระดับมาตรฐานการดำเนินการของผู้ประกอบธุรกิจขนส่งอาหารกรุงเทพมหานคร โดยสำนักอนามัยจึงออกคำแนะนำสำหรับการให้บริการอาหารแบบเดลิเวอรี่ (Delivery)ในสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เพื่อให้ผู้ประกอบการดำเนินการ ดังนี้

นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร

1.ผู้ประกอบการที่จัดบริการอาหารแบบเดลิเวอรี่ ให้ติดตามสถานการณ์และศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และให้ความรู้หรือประชาสัมพันธ์แก่ผู้ขนส่งอาหาร เช่น การสวมหน้ากากที่ถูกวิธี และขั้นตอนการล้างมือที่ถูกต้อง เป็นต้น ผ่านช่องทางต่างๆ ของบริษัท พร้อมจัดทำทะเบียนผู้ขนส่งอาหารที่เป็นพนักงานของบริษัททุกราย จัดให้มีกล่องบรรจุอาหารท้ายยานพาหนะสำหรับขนส่งอาหารให้แก่ผู้ส่งอาหาร ที่มีโครงสร้างแข็งแรง ปกปิดมิดชิด สามารถป้องกันการปนเปื้อน และใช้กล่องบุฉนวนเพื่อรักษาอุณหภูมิให้อยู่ในช่วงอุณหภูมิที่เหมาะสม จัดบริการหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย และเจลแอลกอฮอล์สำหรับทำความสะอาดมือให้แก่ผู้ขนส่งอาหาร จัดให้มีการตรวจคัดกรองสุขภาพเบื้องต้นให้แก่ผู้ขนส่งอาหารทุกราย ก่อนออกปฏิบัติงานทุกวัน กรณีมีผู้ขนส่งอาหารเป็นจำนวนมาก ให้จัดหาจุด check-in สำหรับตรวจคัดกรองให้ครอบคลุม หากพบผู้ขนส่งอาหารมีอาการป่วย เช่น มีไข้ ไอ จาม มีน้ำมูก หรือเหนื่อยหอบ ให้หยุดปฏิบัติงานและไปพบแพทย์ทันที และจัดทำคำแนะนำหรือแบบประเมินตนเอง (Self-check) ในการดูแลตนเองของผู้ขนส่งอาหาร เพื่อให้ผู้ขนส่งอาหารได้มีการตรวจสอบสุขภาพเบื้องต้น จัดให้มีภาชนะรองรับอาหารสำหรับวางอาหารให้ลูกค้าสำหรับผู้ส่งอาหารทุกราย เช่น กล่องหรือโต๊ะแบบพับได้ และจัดทำคำแนะนำให้ผู้ขนส่งอาหารให้มีวิธีการส่งอาหารแบบ Personal distancing โดยยืนห่างจากลูกค้าอย่างน้อย 1 เมตร และห้ามวางอาหารบนพื้น รวมทั้งเพิ่มช่องทางการชำระค่าบริการเป็นแบบ E-Payment

2.ร้านอาหารให้บริการอาหารในรูปแบบเดลิเวอรี่ ต้องสะอาด ถูกสุขลักษณะ อาหารปรุงสำเร็จ ปรุงสุกใหม่ สำหรับอาหารประเภทเนื้อสัตว์ปรุงให้สุกด้วยความร้อนไม่น้อยกว่า 70 องศาเซลเซียส หลีกเลี่ยงการจำหน่ายอาหารประเภทเนื้อสัตว์ที่ปรุงไม่สุก มีการใช้อุปกรณ์ในการหยิบจับอาหารที่ปรุงสำเร็จพร้อมบริโภค จัดให้มีที่ล้างมือพร้อมสบู่สำหรับล้างมือ หรือจัดให้มีเจลแอลกอฮอล์สำหรับทำความสะอาดมือ จัดสถานที่ให้เพียงพอกับจำนวนผู้ขนส่งอาหารที่เข้ามาใช้บริการโดยจัดระยะห่าง 1 เมตร และมีการระบายอากาศที่เหมาะสม จัดหาภาชนะบรรจุอาหารที่เหมาะสมกับอาหารแต่ละประเภท แข็งแรง ปกปิดมิดชิด เพื่อป้องกันการปนเปื้อนในระหว่างการขนส่ง ไม่ใช้โฟมในการบรรจุอาหาร และซ้อน ส้อม ตะเกียบ ต้องอยู่ในบรรจุภัณฑ์ที่ปกปิดมิดชิด อาหารปรุงสำเร็จ มีการติดฉลากที่ระบุรายละเอียดอย่างชัดเจน เช่น ชื่อร้านอาหาร วัน/เดือน/ปี เวลาที่ผลิต ระยะเวลา และอุณหภูมิที่เหมาะสมในการเก็บรักษาอาหาร เป็นตัน กรณีจัดส่งอาหารเสี่ยง เช่น อาหารที่ใช้มือสัมผัสมาก (ข้าวมันไก่ ข้าวหมูแดง ข้าวหมูกรอบ ฯลฯ) อาหาร ที่มีส่วนประกอบของ กะทิ นม ควรแนะนำให้ผู้บริโภคนำไปอุ่นร้อนก่อนรับประทาน หากพนักงานมีอาการเจ็บป่วย เช่น มีไข้ ไอ จาม มีน้ำมูก หรือเหนื่อยหอบ ให้หยุดปฏิบัติงานและไปพบแพทย์ทันที

3.ผู้ขนส่งอาหารเดลิเวอรี่ ต้องลงทะเบียนกับผู้ประกอบการที่จัดบริการอาหารแบบเดลิเวอรี่ สวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยระหว่างปฏิบัติงาน ล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ ก่อนเข้าร้านอาหาร ก่อนและหลังการส่งอาหารให้ผู้สั่งซื้ออาหาร รวมทั้งหลังเข้าห้องสุขา หลังจับสิ่งสกปรก และจับเงิน หากมีอาการป่วย เช่น มีไข้ ไอ จาม มีน้ำมูก หรือเหนื่อยหอบ ให้หยุดปฏิบัติงานและไปพบแพทย์ทันที ต้องใช้กล่องบรรจุอาหารท้ายยานพาหนะสำหรับขนส่งอาหาร ที่มีโครงสร้างแข็งแรง ปกปิดมิดชิดในลักษณะที่ช่วยป้องกันการปนเปื้อน และใช้กล่องบุฉนวนเพื่อรักษาอุณหภูมิให้อยู่ในช่วงอุณหภูมิที่เหมาะสมให้หมั่นดูแลรักษากล่องบรรจุอาหารท้ายยานพาหนะสำหรับขนส่งอาหารให้อยู่ในสภาพดี พร้อมใช้งาน และทำความสะอาดด้วยน้ำและน้ำยาทำความสะอาด และฆ่าเชื้อโรค ด้วย Alcohol 70 % โดยสเปรย์หรือหยด Alcohol 70 % ลงบนผ้าสะอาดพอหมาดๆ เช็ดไปในทิศทางเดียวกัน เป็นประจำทุกวัน ตรวจสอบคุณภาพอาหารทันทีหลังได้รับจากร้านอาหาร เช่น ความสะอาด สภาพอาหารและไม่มีกลิ่นเน่าเสีย บรรจุอยู่ในภาชนะที่มีสภาพดี ไม่ชำรุด การปกปิดอาหาร ฉลากอาหาร เป็นต้น การส่งอาหารต้องแยกเก็บอาหารเป็นสัดส่วน ระหว่างอาหารปรุงสำเร็จ และเครื่องดื่ม และจัดส่งถึงมือผู้บริโภคให้เร็วที่สุด ไม่ควรเปิดกล่องบรรจุอาหารท้ายยานพาหนะ จนกว่าจะพบผู้สั่งซื้ออาหาร โดยก่อนเปิดกล่องใส่อาหารทุกครั้งควรทำความสะอาดมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ จัดส่งอาหารให้ผู้สั่งซื้อโดยใช้ภาชนะรองรับอาหารสำหรับวางอาหารให้ลูกค้าหรือจุดที่ผู้สั่งซื้อกำหนดมีวิธีการส่งอาหารแบบ Personal distancing โดยยืนห่างจากลูกค้าอย่างน้อย 1 เมตร และห้ามวางอาหารบนพื้นเพื่อลดความเสี่ยงการได้รับเชื้อโรคระหว่างให้บริการผู้สั่งซื้อ หรือในกรณีที่ไม่ได้ส่งอาหารให้กับผู้สั่งอาหารได้โดยตรง สถานที่หรือบริเวณที่จะส่งอาหารต้องไม่ทำให้อาหารเกิดการปนเปื้อน เช่น ไม่ส่งอาหารบริเวณใกล้ถังขยะเป็นต้น และภายหลังส่งอาหารและหลังการจับเงินให้ทำความสะอาดมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ ถอดถุงมือผ้าในระหว่างการหยิบจับอาหาร เพราะอาจเกิดการปนปื้อนของฝุ่นละอองและเชื้อโรคที่สะสมในถุงมือผ้า กรณีใส่ถุงมือผ้าในระหว่างการใช้ยานพาหนะขนส่งให้ล้างมือด้วยน้ำและสบู่ก่อนการสวมใส่ทุกครั้ง และเปลี่ยนถุงมือทุก 4 ชั่วโมง ทำความสะอาดถุงมือด้วยน้ำยาทำความสะอาดทุกวัน

4. ผู้สั่งซื้ออาหาร/ผู้บริโภค ให้จัดเตรียมภาชนะรองรับอาหาร เช่น กล่องหรือโต๊ะแบบพับได้ และให้ยืนห่างจากผู้ขนส่งอาหารอย่างน้อย 1 เมตร ล้างมือด้วยน้ำและสบู่ หรือใช้เจลแอลกอฮอล์สำหรับทำความสะอาดมือ หลังการรับอาหารจากคนขนส่งอาหาร ก่อนรับประทานอาหาร สวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยหากมีอาการป่วย ในระหว่างการรับอาหารจากผู้ขนส่งอาหาร ควรสั่งอาหารจานร้อน ปรุงสุกเสร็จใหม่ หลีกเลี่ยงการสั่งซื้ออาหารกลุ่มเสี่ยง เช่น อาหารประเภทเนื้อสัตว์หรือเครื่องในสัตว์ที่ปรุงไม่สุก อาหารที่เน่าเสียง่าย อาหารที่ปรุงด้วยนม กะทิ เป็นต้น กรณีอาหารเสี่ยงเช่น อาหารที่ใช้มือสัมผัสมาก ข้าวมันไก่ ข้าวหมูแดง ข้าวหมูกรอบ ฯลฯ อาหารที่มีส่วนประกอบของ กะทิ นมควรนำไปอุ่นร้อนก่อนรับประทาน ตรวจสอบคุณภาพอาหาร เช่น ความสะอาด สภาพอาหารและไม่มีกลิ่นเน่าเสีย ความเหมาะสมของภาชนะบรรจุ การปกปิดอาหาร เป็นต้น เมื่อได้รับอาหารจากผู้ขนส่งอาหาร ควรจ่ายค่าบริการโดยวิธี E-Payment หรือเตรียมเงินสดให้พอดี

รวมสารพัดแอปช่วยให้ทำงานที่บ้านผ่านฉลุย

กระทรวงพลังงาน รวบรวม Online Application ที่น่าสนใจซึ่งจะเป็นตัวช่วยให้วันทำงานที่บ้าน สะดวกสบายมากขึ้น ประหยัดทั้งเวลาและพลังงาน แถมยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานอีกด้วย รับกับสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ระบาด แยกประเภทการทำงาน หลักๆ ไว้ตามนี้

? วางแผนงาน : เป็นขั้นตอนเริ่มต้นของทุกๆ การทำงาน ที่จะทำให้การวางแผนงานของทีมงานเป็นระบบระเบียบมากขึ้น ช่วยวาง Timeline หรือแม้แต่ To do List ของแต่ละฝ่ายให้ชัดเจน อย่าง Asana, Trello, Google Calendar, Notion, Microsoft Team

? ประชุมออนไลน์ : ในการทำงาน ยังไงก็ปฏิเสธไม่ได้ที่จะต้องจัดให้มีการประชุมงานเพื่ออัพเดทความคืบหน้าการทำงานของแต่ละฝ่าย/แผนก ยิ่งในช่วงนี้ การทำงานเป็นทีมยังคงอยู่ แต่อาจจะต้องห่างกันสักพัก โดยหันมาใช้แอปพลิเคชันสำหรับการประชุมออนไลน์ ที่นอกจากจะช่วยลดการเดินทาง ลดการพบปะกันแล้ว ยังได้อรรถรส เห็นหน้า ได้ยินเสียงกันดังเดิม ผ่านแอปฯ เหล่านี้ Zoom, Google Meet, Microsoft Team, Slack

? รวบรวมข้อมูล : แอปพลิเคชันสำหรับเป็นแหล่งแชร์ไฟล์และจัดเก็บไฟล์โดยเฉพาะให้เป็นหมวดหมู่ ซึ่งข้อมูลของบางหน่วยงานอาจมีข้อจำกัดในเรื่องของปริมาณข้อมูลและการจำกัดการเข้าถึงเฉพาะบุคคลหรือเปิดให้เป็นสาธารณะ อย่าง Google Drive, Dropbox, One Drive, iCloud

? วางไอเดีย : แอปพลิเคชันสำหรับการสร้างเครือข่ายภายในขององค์กร เพื่อแชร์ไอเดียร่วมกันอย่างสร้างสรรค์และร่วมกันแสดงความคิดเห็นได้ อย่าง Workplace, Microsoft One Note, Miro, Facebook Group, Line

? ส่งเอกสาร : ใช้บริการส่งเอกสารหรือส่งงานได้จาก Grab, Line Man, Lalamove, GET, Kerry ซึ่งบางท่านอาจคุ้นเคยกับแอปฯเหล่านี้พอสมควรกับการสั่งอาหารเดลิเวอรี่เป็นประจำอยู่แล้ว

? Screen Sharing : แอปฯ ที่มีฟีเจอร์ สำหรับ Screen Sharing ในบางโอกาสที่ต้องการนำเสนอผลงานบนหน้าจอมือถือแบบแชร์จอภาพ หรือสาธิตวิธีการทำงานและการใช้โปรแกรมต่างๆ ให้กับเพื่อนร่วมงานทราบ เพื่อให้อีกฝ่ายได้เห็นหน้าจอมือถือขณะ Present ได้อย่างเห็นภาพและเข้าใจมากยิ่งขึ้น อย่าง Lark, Team, Zoom, Join.me, Flock

ข้อดีของ Work from Home ที่หลายคนอาจกังวลว่าจะทำให้ประสิทธิภาพการทำงานลดหย่อนลง แต่หากเราหยิบเทคโนโลยีในยุค 4.0 มาใช้ให้เกิดประโยชน์ ก็จะช่วยให้ลดความเสี่ยงและป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรนา จากการพบปะผู้คน ประหยัดทั้งเวลาเดินทาง แถมยังลดใช้พลังงานได้อีกทางหนึ่งด้วย แต่อาจจะต้องใช้เวลาปรับตัวและให้เวลาในการเรียนรู้แอปพลิเคชันเหล่านี้อีกสักนิด เพื่อให้เราเองและองค์กรพร้อมสำหรับการทำงานเสมอในช่วงฝ่าวิกฤติโควิดนี้นะครับ

ที่มา กระทรวงพลังงาน

ธอส.เพิ่มช่องทางใหม่จ่ายค่างวด สแกนคิวอาร์โค้ดที่เว็บไซต์

นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธอส. ได้เพิ่มช่องทางใหม่ในการชำระเงินกู้ออนไลน์ได้ง่าย ๆ ที่ใดก็ได้ด้วยโทรศัพท์มือถือ หรือเครื่องคอมพิวเตอร์ที่บ้าน เพื่อร่วมป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 

เพียงเข้าไปที่เว็บไซต์ธนาคารอาคารสงเคราะห์ www.ghbank.co.th จากนั้นเลือกระบบ “จ่ายค่าบ้านออนไลน์” และปฏิบัติตามขั้นตอน โดยระบุข้อมูล คือ เลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก และเลขที่บัญชีเงินกู้ จากนั้นระบบจะแสดงข้อมูลของลูกค้าและจำนวนเงินกู้ที่ต้องชำระ เมื่อลูกค้ายืนยันความถูกต้องของข้อมูล ระบบจะสร้าง QR Code สำหรับการชำระเงินกู้ในแต่ละครั้งให้ลูกค้าสามารถเลือกดาวน์โหลดหรือสแกนเพื่อชำระเงินกู้ของ ธอส. ได้ทันทีด้วย Mobile Application : GHB ALL ของ ธอส. หรือของธนาคารใดก็ได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางไปที่สาขาของธนาคาร ทั้งนี้ สามารถใช้บริการระบบดังกล่าวได้ตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป

นอกจากนี้ ลูกค้ายังสามารถทำธุรกรรมกับ ธอส.ด้วย Mobile Application : GHB ALL รวมทุกบริการ ธอส.ไว้ในมือคุณ อาทิ ชำระเงินกู้ ดูใบเสร็จ บริการโอนเงิน พร้อมเพย์ ดู statement ดูรายการทรัพย์ NPA ค้นหาที่ตั้งสาขา และลงทะเบียนแจ้งความประสงค์เข้าร่วม “โครงการ ธอส. ช่วยคนไทย ร่วมสร้างชาติ” เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการผ่อนชำระเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ได้อีกด้วย