สัปดาห์นี้ รอลุ้น ครม.ว่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมหรือไม่ โดยเฉพาะในการประชุม ครม.เศรษฐกิจวันที่ 10 ก.ค.นี้ หลังนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้กระทรวงการคลังเร่งหามาตรการกระตุ้นการบริโภคและการท่องเที่ยวเพิ่มจากปัจจุบัน
โดยล่าสุดเริ่มเห็นกระแสมาตรการรอบใหม่ เช่น การยืดระยะเวลาชำระหนี้ของ SMEs (Loan Payment Holiday) เพิ่มเติม, การช่วยเหลือให้ผู้ประกอบการเข้าถึง Soft loan ได้ง่ายขึ้น รวมทั้งมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวที่ต้องการกระตุ้นให้คนรวยหรือผู้ที่มีกำลังซื้อสูงออกมาใช้จ่ายมากขึ้น รวมถึงมาตรการช้อปช่วยชาติ ซึ่งกระทรวงการคลังระบุว่ากำลังอยู่ระหว่างศึกษารูปแบบของมาตรการช้อปช่วยชาติ
บล.เอเซียพลัส ระบุว่า หากมีการออกมาตรการช้อปช่วยชาติ เชื่อว่าจะส่งผลบวกต่อเศรษฐกิจไทย โดยหากพิจารณาสถิติย้อนหลัง ทุกครั้งที่ภาครัฐออกมาตรการช้อปช่วยชาติตั้งแต่ปี 2558-2561 พบว่าสามารถเพิ่มเม็ดเงินเข้าระบบเศรษฐกิจราว 9,000-22,500 ล้านบาท หรือราว 0.06-0.15% ของ GDP
หากพิจารณาจากอดีต เฉพาะช่วงที่มีมาตรการช้อปช่วยชาติเต็มรูปแบบ 3 ปี (ปลายปี 2558-2559 และ 2560) ระยะเวลาดำเนินมาตรการในแต่ละช่วง 7-23 วัน พบว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงช้อปช่วยชาติ Outperform ได้ดีให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 0.81%
ส่วนกลุ่มหุ้นที่ Outperform ได้ดีกว่าตลาด คือ กลุ่มท่องเที่ยว 3.90%, ค้าปลีก 1.43%, ขนส่ง 1.22% และอสังหาฯ 1.14% เป็นต้น โดยหุ้นขนาดใหญ่ที่มัก Outperform ตลาดได้ดี ในช่วงช้อปช่วยชาติ คือ CENTEL 6.3%, BJC 4.8%, LH 4.2%, ERW 4.0%, AP 3.1%, AOT 2.3%, CPALL 2.0%, CPN 1.2% ตามลำดับ
ดังนั้น จึงเชื่อว่าหุ้นดังกล่าวมีโอกาส Outperform ตลาดได้ดีในช่วงรอมาตรการช้อปช่วยชาติที่มีโอกาสมาเร็วขึ้นในปีนี้
รวมถึงตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (CCI) มิ.ย.63 อยู่ที่ 49.2 จุด เพิ่มขึ้น 2.1% mom ปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 2
จึงคาดว่า แนวโน้ม SSSG กลุ่มน่าจะผ่านจุดเลวร้ายสุดแล้ว จากผลกระทบปิดสาขาส่วนใหญ่ ใน 2Q63 และเชื่อว่ากลุ่มสินค้าจำเป็นจะฟื้นตัวได้มีเสถียรภาพขึ้น โดยเฉพาะหุ้น CPALL และ SPVI!!
ที่มา คอลัมน์ เงาหุ้น โดย อินเด็กซ์ 51 หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ