Home Blog Page 57

นิสัยที่เป็นภัยต่อบัตรเครดิต

 

ใช้บัตรเครดิตแบบติดนิสัยเสีย ระวังภัยมาเยือน

รูดปรื๊ด รูดปรื๊ด

บัตรเครดิต ถ้าใช้อย่างชาญฉลาด และมีวินัยแล้ว จะช่วยให้คุณเจ้าของบัตรได้รับประโยชน์มากกว่าที่คิด ทั้งส่วนลดจากการแลกคะแนน การผ่อนชำระ นอกเหนือไปจากการทำหน้าที่พื้นฐาน คือ
รูดจ่ายค่าของแทนเงินสด

แต่ถ้าลองคุณเจ้าของบัตร ดันเป็นคนบกพร่องทางวินัยการเงินแล้ว ชีวิตคุณวิบัติแล้วล่ะ เพราะการรูดบัตร ก็เหมือนกับการใช้เงินในอนาคต หากรูดบัตรเพลินมากไป อนาคตคุณคงไม่สดใสแล้วล่ะ

สำรวจตัวเองกันหน่อยว่า เรามีนิสัยที่เป็นภัยต่อบัตรเครดิตที่เราถือหรือไม่

7 นิสัยที่ควรหลีกเลี่ยงเลย หากรักจะใช้บัตรเครดิต ได้แก่ หนึ่ง เซ็นอย่างเดียว ไม่ตรวจสลิป สอง เป็นคนคิดน้อย ไม่เฉลียวใจเวลาถูกถามเรื่องข้อมูลบัตร บอกเค้าไปหมด สาม ขี้เกียจจำ รักสบาย ไม่กรอกข้อมูลเอง ชอบให้ป้อนข้อมูลอัตโนมัติ

สี่ เวลาใบแจ้งหนี้บัตรส่งมาถึง ก็ไม่ค่อยตรวจสอบรายละเอียด ห้า ไว้ใจพนักงานมากเกินไป ให้ถือบัตรไปรูด โดยไม่สังเกตความผิดปกติหรือมีพิรุธว่ามีหรือไม่ หก ทำบัตรหาย ไม่รีบแจ้ง และท้ายสุด
ตามไม่ทันเหล่ามิจฉาชีพ ไม่ติดตามข่าวเรื่องกลโกงของเหล่าโจร

ถ้าพบเจอนิสัยเสียเหล่านี้ แก้ไขด่วน เพื่อไม่ให้บัตรเครดิต กลายเป็นภัยกลับมาทำร้ายตัวเอง

ขอบคุณ ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน แบงค์ชาติ

 

เช็คก่อนช็อปออนไลน์

 

#เช็คก่อนช๊อป

เดี๋ยวนี้ ใครๆก็ช็อปออนไลน์ เพราะสะดวกกว่ากันเยอะ ไม่ต้องเดินทาง ไม่ต้องวนหาที่จอดรถตามห้าง
แค่คลิ๊กๆๆ รอสองสามวัน สิ่งของที่ปราถนาก็ส่งตรงถึงหน้าบ้าน

แต่หลายคนก็มีประสบการณ์เจ็บปวดจากการซื้อสินค้าออนไลน์ ไม่ว่าจะโดนโกง โอนเงินให้ใครก็ไม่รู้ฟรีๆ หรือสินค้าที่ได้รับ ไม่เป็นไปอย่างที่ต้องการ ทั้งไม่เหมือนในภาพ หรือคุณภาพต่ำ หรือไม่ก็เป็นสินค้าปลอม แต่เราดันซื้อหามาในราคาของแท้ซะงั้น

ก่อนจะช็อป เราควรต้องเช็ค เช็คอะไรบ้างนั้น ตามมา

อย่างแรกเลย เปรียบเทียบราคาดู ถ้าพบว่า ราคาในเน็ตมันถูกเกินเหตุ ถูกแสนถูกกว่าตามร้านค้าทั่วไป ให้สงสัยไว้ก่อนว่า ของปลอมหรือเปล่าหนอ ตามด้วยตรวจสอบข้อมูลผู้ขายว่า น่าเชื่อถือมั้ย เอาชื่อ เบอร์โทร เสิร์จกูเกิ้ลหาเลย หรือไม่ก็หารีวิว หรือคอมเมนท์เกี่ยวกับทั้งสินค้าและคนขายอีกทาง เพื่อความสบายใจ และสบายกระเป๋า

ดูด้วยว่า การพูดคุย การตอบแชทของคนขาย เป็นยังไง น่าซื้อขายด้วยมั้ย ศึกษาข้อมูลสินค้าให้ดี การรับประกัน ทั้งคืนเงิน หรือคืนสินค้า มีมั้ย

อย่าลืมใช้สิทธิโค้ดส่วนลดที่มีให้ด้วย จะได้ไม่เจ็บใจว่าซื้อของแพงกว่าคนอื่นเค้า

แต่เหนือสิ่งอื่นใด ต้องเช็คเงินในกระเป๋าก่อน อย่าคิดว่า พอไหม เอาแค่มีไหมจะใช่กว่า

เช็คก่อนช็อป จะได้ไม่ช้ำชอก

อย่าลืมน่ะจ๊ะ งบช็อปปิ้งไม่ควรเกิน 10%ของรายได้ต่อเดือน

 

ขอบคุณข้อมูลดีๆ จากสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม

ตั้งชื่อกับรหัสอย่างไรให้ปลอดภัย

#วิธีตั้งชื่่อกับรหัสให้ปลอดภัย
 
ทุกวันนี้ จะธุรกรรมผ่านอินเตอร์เน็ต มันฉับไว รวดเร็ว ทันใจ เสียนี่กระไร
 
แต่พึงตระหนัก ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนมีสองด้าน ด้านสว่าง และด้านมืด
 
เทคโนโลยี่ที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว ใช้ประโยชน์ได้ฉันใด ก็นำมาใช้ทางที่ผิดได้ฉันนั้น
 
ภัยจากโลกออนไลน์ใกล้ตัวเรามากขึ้น จากเดิมที่เราอาจประสบภัยได้ตามตู้กดเงิน ทุกวันนี้ ภัยก็ย่างกรายมาใกล้ตัวเราอย่างคอมพิวเตอร์ และโทรศัพท์มือถือ
 
เราสามารถป้องกันตัวเองได้ง่ายๆ เลย แค่เริ่มจากการรู้จักกำหนดชื่อ และรหัสการเข้าใช้งานอย่างปลอดภัย
ไม่ต้องพึ่งบริการของซินแสมาตั้งให้ ตัวเราเองนี่แหละ
 
user name ที่ปลอดภัย ควรเลือกใช้ตัวอักษรภาษาอังกฤษทั้งตัวพิมพ์ใหญ่และเล็ก ร่วมกับตัวเลข และต้องจำง่ายสำหรับเราเอง ไม่ต้องเผื่อคนอื่น
 
ส่วน password ควรมีความยาว 8-16 ตัวอักษร ทั้งตัวพิมพ์อังกฤษใหญ่และเล็ก กับตัวเลข ที่สำคัญ คือ ควรเป็นรหัสที่รู้เฉพาะตัวและจำได้
 
ข้อห้ามเลย อย่าใช้ข้อมูลส่วนตัว อย่าง วันเกิด เบอร์โทรศัพท์ มาเป็นชื่อหรือรหัส เลขก็ไม่ควรใช้เลขซ้ำ หรือเลขเรียงกันที่เดาง่าย อีกอย่างคือ ไม่ควรตั้ง user name กับ pass word เป็นตัวเดียวกัน เพราะเป็นการช่วยอำนวยความสะดวกแก่พวกโจรออนไลน์
 
ขอบคุณ โครงการดีๆของธนาคารธนชาติ ร่วมกับดีเอสไอ ที่ทำให้เรารู้ทันกลโกงของเหล่ามิจฉาชีพ

พกเงินยังไงดี ไม่ให้ใช้เยอะใช้เกลี้ยง

 

#แก้ปัญหากระเป๋าแบนแฟนทิ้ง

คุณๆ ทุกท่าน คงประสบปัญหานี้ กระเป๋าแบนแฟนทิ้ง

ในชีวิตจริง ไม่ใช่แค่แฟนที่ทิ้งเราไป คนรอบข้างที่รายล้อมยามอู้ฟู่ ก็มักจะหายหน้าหายตาไปจากสารบบชีวิต

เรามาทำให้กระเป๋าเรา เป็นเหมือนกระเป๋าวิเศษของโดราเอมอนกันเถอะ แต่ของที่่อยู่ในกระเป๋านี้ ไม่ใช่บรรดาของวิเศษจากโลกอนาคต แต่เป็นความสุขจากการมีวินัยในการใช้เงินต่างหาก

เลิกนิสัยเดิมๆ ควักจ่าย ควักจ่าย และควักจ่าย จนเงินเกลี้ยงกระเป๋า

กดเครื่องคิดเลขเลยว่า เราต้องใช้เงินเท่าไรในแต่ละสัปดาห์ แต่ละเดือน นั่นแหละ คือ ยอดเงินในกระเป๋าที่เราพก
อย่าถอนเงินเพิ่ม เพราะนอกจากกระเป๋าจะแบนแล้ว บัญชีธนาคารก็จะแฟ่บด้วย คราวนี้ แฟนหรือเมีย อาจไม่ทิ้งอย่างเดียว อาจแถมเพ่นกบาลเอาด้วย

จะช็อปปิ้งเท่าไรไม่ห้าม แต่ต้องอยู่ในแผน และแนะนำว่าไม่ควรเกิน 10% ของเงินเดือนน่ะจ๊ะ

ทำอย่างนี้แล้ว รับรองว่า ชีวิตเรา พ้นจากการต้องแบกอะไรหนักๆ หันมาพกเงินในกระเป๋าเบาๆ แต่ไม่แบนแทนกันเถอะ

ขอบคุณที่มา ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน แบงค์ชาติ ครับ

กู้นอกระบบ ความจนทบต้นทบดอก


#หนี้นอกระบบ

#เจ้าหนี้เงินกู้เอาเปรียบ

#ทวงหนี่้โหด

หลายท่านต้องการเงินก้อนมาลงทุน ต่อยอดชีวิต เงินต่อเงิน

 
แต่ถ้าตัดสินใจกู้หนี้ยืมสินแบบใจเร็วด่วนได้ พึ่งพาบริการเจ้าหนี้นอกระบบ จุดจบเจ็บจนเจ๊งก็รอท่านอยู่ตรงหน้าแล้ว
 
ศึกษาเปรียบเทียบกันให้ดี หนี้ในระบบ กับ หนี้นอกระบบ เลือกเอาว่าจะเป็นลูกหนี้แบบไหน ระหว่าง หนี้ในระบบ เจรจาประนอมหนี้ได้ กับ หนี้นอกระบบ ที่เจ้าหนี้พร้อมเดลิเวอรี่พนักงานทวงหนี้หน้าโหดมาทวงเงิน หนักเข้า
อาจมีการทำร้ายร่างกาย หรือประจานโลกโซเชี่ยลอย่างที่เค้าฮิตทำกันอยู่
                                                                   
 
ทางสว่างมี แต่หลายคนชอบเลือกทางเดินมืดๆ แทน กู้เงินกับธนาคาร หรือสถาบันการเงิน มีสัญญาเงื่อนไขชัดเจน ดอกเบี้ยก็ลดต้นลดดอกได้ ส่วนเจ้าหนี้นอกระบบ สัญญาเอาแน่เอานอนไม่ได้ แต่ที่แน่ๆ เจ้าหนี้เอาอย่างเดียว คือเอาเปรียบตลอดศก
 
ถึงตอนนี้แล้ว ก็เลือกเอาว่า จะรอวันฟ้าเปิดเมื่อปลดหนี้สินในระบบได้ หรือถวิลหาวันฟ้าปิดตาย ทำมาหากินแบบใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ตุ๊มๆต้อมๆแต่ละวัน ลุ้นไปวันๆว่า วันนี้จะมีแขกแปลกหน้ามาเยี่ยมหามั้ยหนอ
 
ขอบคุณ ข้อมูลดีๆจากชมรมสินเชื่อส่วนบุคคล
 

ข้อคิดก่อนเปลี่ยนมือถือใหม่

#มือถือออกรุ่นใหม่ต้องตามเปลี่ยนมั้ย

 

เชื่อว่า หลายคน คงอยากได้ อยากครอบครอง มือถือรุ่นใหม่ ที่ขยันออกมายั่วยวนใจเราถี่ขึ้น

ทั้งฝั่งแอปเปิ้ล หรือฟากแอนดรอยด์ เค้าพัฒนารุ่นใหม่โฉมใหม่  ส่วนยูสเซอร์อย่างเรา ก็อยากจะตามทันเทคโนโลยี จนบางทีก็ติดกับดักคำว่า ของมันต้องมี

เปลี่ยนมือถือใหม่นี่ มันง่ายกว่า เปลี่ยนรถ เปลี่ยนคู่ครอง เผลอๆ ช่วยเชิดหน้าชูตาคนถือ บางทีมโนไปถึงชื่อเสียงเกียรติยศวงศ์ตระกูลไปนั่นเลยก็มี

คนอยากได้ อยากมี มักมีข้ออ้างสารพัดสารพัน

 

แต่เดี๋ยวก่อน

ยับยั้งชั่งใจ คิดดีๆ คิดนานๆ มือถือในมือ มันพัง มันรวน ใช้โทรออก รับสายไม่ได้  ทัชสกรีนไม่ลื่นปรี๊ดปร๊าด หรือเปล่า

บางทีแค่เปลี่ยนแบตใหม่ ลบเมมโมรี่ หรือเปลี่ยนการ์ดที่เมมสูงขึ้น ก็ใช้ได้สบายใจเฉิบ

มีข้อคิดเตะตัดขาความอยากไว้ว่า สเปคใหม่ๆที่เค้าให้มาเนี่ย  มันจำเป็นกับเรามั้ยที่จะยอมควักเงินจ่าย

บางทีเงินในมือเรา สามารถไปซื้อเครื่องที่เพิ่งตกคานตกรุ่นได้ด้วยราคาที่ประหยัดลงไปเป็นหมื่นเลยก็ได้

แถมเอาเงินที่ประหยัดได้ไปต่อยอด จะลงทุน เงินต่อเงิน หรือเงินต่อชีวิต  ก็ว่ากันไป

หวังว่า เราจะพึงฉุกคิดได้ว่า มีทางเลือกอื่น ที่ไม่ใช่ การไล่ตามควักเงินจ่าย ซื้อมือถือรุ่นใหม่ ไปเรื่อยๆ  อย่างเช่นที่หลายคนเป็นอยู่

 

ท้ายนี้ ขอขอบคุณความปรารถนาดี กับภาพประกอบของศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน แบงค์ชาติ ด้วยค่ะ

ออมสินจับมือ 7-11 ให้เด็กฝากเงิน24ชม.

#ออมสิน #เซเว่นอีเลฟเว่น
 
ออมสินจับมือ 7-11 ให้เด็กฝากเงิน24ชม.
 
นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ธนาคารออมสินร่วมกับบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท เคาน์เตอร์เซอร์วิส จำกัด จัดทำโครงการส่งเสริมการออม “เด็กดี ออมฟรี 24 ชั่วโมง” ผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิส เปิดให้บริการฝากเงินสำหรับเด็กและเยาวชนอายุ 7-20 ปี ฝากเงินได้ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิสที่มีถึง 13,000 สาขาทั่วประเทศ โดยยกเว้นค่าธรรมเนียมบริการ โดยเริ่มบริการตั้งแต่วันที่ 31 ตุลาคม 2561 ซึ่งตรงกับวันออมแห่งชาติ
 
นายก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า โครงการส่งเสริมการออมสำหรับเยาวชน “เด็กดี ออมฟรี 24 ชั่วโมง” ผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิสนี้ เยาวชนที่มีอายุระหว่าง 7-20 ปี สามารถออมเงินได้ตั้งแต่ 1 บาทขึ้นไป โดยไม่มีค่าธรรมเนียมการฝากเงิน
 
นายวีรเดช อัครผลพานิช รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เคาน์เตอร์เซอร์วิส จำกัด บอกว่า ตามแผนความร่วมมือในระยะที่ 2 จะเปิดบริการฝาก-ถอนเงินสด ผ่านแอปพลิเคชัน Mobile Banking (MyMo) ของธนาคารออมสิน ที่เคาน์เตอร์เซอร์วิส โดยลูกค้าธนาคารออมสิน ทุกวัย จนะสามารถฝากเงินสูงสุดได้ 30,000 บาทต่อรายการ ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนบริการถอนเงินสดนั้น ลูกค้าของออมสินสามารถถอนได้ตั้งแต่ 1 – 5,000 บาทในช่วงเวลา 08.00- 22.00 น.
โดย เก็บค่าธรรมเนียม 15 บาทต่อรายการ ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าของรออมสินมากยิ่งขึ้น

ลดราคายังไง ถ้าไม่ใช้ อย่าซื้อ

 

 

#ถูกแค่ไหน..ลดเท่าไร??

#ถ้าไม่ใช้..ก็ไม่ซื้อ!!!

#ตั้งสติให้ดี..ท่องไว้

#อย่าให้ป้าย SALEปล้นเงินในกระเป๋าเรา

 

เคยมั้ย..??  พอเห็นป้ายเซล50%แล้วเป็นต้องกระโจนเข้าใส่ทุกที คุ้ยๆๆๆซื้อๆๆๆ

ถ้าซื้อของที่จำเป็นต้องใช้ ไม่ซื้อไม่ได้!! อันนี้เข้าใจได้ว่าของมันจำเป็นต้องซื้อ

 

แต่เคยมั้ย..??? ที่ซื้อๆๆๆ มากองๆไว้เต็มบ้าน ผ่านไป1-2เดือนแล้วก็ยังไม่ได้เอามาใช้ ผ่านไป1-2ปีแล้วก็ยังกองอยู่อย่างนั้นหรือหยิบๆมาใช้หรือถ้าเป็นเสื้อผ้าก็ใส่แค่1-2ครั้ง แล้วไม่ได้ใส่อีกเลย อันนี้เรียกว่า “ไม่จำเป็นต้องใช้” จึงไม่จำเป็นต้องซื้อ!!

 

ไม่ว่าจะลดจนราคาถูกเท่าไร SALE 50% -70% หรือ90%หากซื้อมาแล้วไม่ได้ใช้ ของสิ่งนั้นก็ยังคงแพงอยู่ดี เพราะใช้ไม่คุ้มค่า!! ดังนั้นเมื่อเห็นป้าย SALE!!  SALE!! SALE!! ขอให้ตั้งสติให้ดี..คิดไว้ว่า “ถูกแค่ไหน ลดเท่าไร ถ้าไม่ได้ใช้ ก็ไม่ต้องซื้อเพราะมันแพง!!!!

อย่าให้ป้าย SALE มาขโมยเงินออกจากกระเป๋าเรา…ตามนั้น!!

 

credit ภาพกราฟฟิกสวยๆจากศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน(ศคง.)แบงก์ชาติและ

ข้อมูลดีๆจากเอกสารประกอบการบรรยายของ อ.อัจฉรา โยมสินธ์

 

 

 

ดอกเบี้ยทบต้น ช่วยให้รวยเร็ว

ดอกเบี้ยเงินฝาก

 ก่อนอื่น คำความรู้จักกับคำว่า “​ดอกเบี้ยเงินฝาก” ก่อน ซึ่งก็คือ ผลตอบแทนที่ผู้ฝากเงินได้รับจากการนำเงินมาฝากไว้กับสถาบันการเงิน

อัตราดอกเบี้ยเงินฝาก  มักอยู่ในลักษณะร้อยละต่อปี ที่สถาบันการเงินจ่ายให้กับผู้ฝากเงินเพื่อเป็นผลตอบแทนในการนำเงินมาฝากไว้กับสถาบันการเงิน อัตราดอกเบี้ยเงินฝากมีหลายประเภท หลายอัตรา โดยทั่วไปขึ้นอยู่กับระยะเวลาการฝากเงินและเงื่อนไขการถอนเงิน เช่น อัตราดอกเบี้ยของบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ที่สามารถถอนเงินได้ตลอดเวลาจะต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 3 เดือน หรือ 6 เดือน

เราจึงควรคำนึงถึงความจำเป็นในการใช้เงิน และผลตอบแทนที่เราต้องการ ก่อนตัดสินใจเลือกฝากเงิน เพื่อที่จะได้รับประโยชน์สูงสุดจากการฝากเงินนั้น

ดอกเบี้ยทบต้น

คำกล่าวที่ว่า “ออมก่อน รวยก่อน” นั้นส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากอานุภาพของดอกเบี้ยทบต้น (Compound Interest Rate) ซึ่งพูดให้เข้าใจง่ายก็คือดอกเบี้ยของดอกเบี้ยนั่นเอง  ตัวอย่างเช่น  ฝากเงินกับธนาคาร 10,000 บาท  ธนาคารให้ดอกเบี้ย  5% ต่อปี  เมื่อครบ 1 ปี เงินของเราจะเพิ่มขึ้นเป็น 10,500 บาท (เงินต้น 10,000 บาท บวกดอกเบี้ย 500 บาท) เงิน 10,500 บาทนี้ จะกลายเป็นเงินต้นของปีที่ 2 และเมื่อครบ 2 ปี เงินของเราจะเพิ่มขึ้นเป็น 11,025 บาท (เงินต้น 10,500 บาท บวกดอกเบี้ย 525 บาท) และในปีถัด ๆ ไปดอกเบี้ยของปีนั้นจะถูกทบเข้ากับเงินต้น และกลายเป็นเงินต้นของปีถัดไป เป็นเช่นนี้ไปเรื่อย ๆ

จะเห็นได้ว่า ส่วนที่เป็นดอกเบี้ยไม่ได้คงที่ที่ 500 บาท แต่เพิ่มขึ้นทุกปี ซึ่งเป็นเพราะเงินต้นของเราก็เพิ่มขึ้นทุก ๆ ปีเช่นกัน เนื่องจากได้เอาดอกเบี้ยของปีก่อนมารวมเข้าเป็นเงินต้นด้วยแล้ว

ขอบคุณ ข้อมูล ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย